ดูอันดับที่ผ่านๆมาได้ที่นี้
กลับมาแล้วค้าบบบบ เอิ้กๆ ยังมีคนจำได้กันมั้ยเนี่ย

..........................................................................................
66.Jacky Blanchflower

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ ฮาล์ฟ
เกิดที่ : เบลฟาสต์
วันเกิด : 7 มีนาคม 1923
เข้าร่วมทีม : พฤาภาคม 1933
ค่าตัว : ไม่มี
สโมสรเดิม : เยาวชน
ลงเล่นในลีก : 105 นัด
ยิง : 26 ประตู
ทีมชาติ : ไอร์แลนด์เหนือ 12 นัด 1 ประตู
แจ๊คกี้ บลาวฟลาวเวอร์ จะถูกจดจำไมเพียงลีลาในสนามในฐานะนักเตะแมนยูไนเต็ดและทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความกล้าหาญจนวาระสุดท้ายของชีวิตอีกด้วย
แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะโรคร้ายที่รุมเร้า แต่แจ๊คกี้ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัย 65 ในปี 1998 ก็ปฎิเสธที่จะยอมแพ้จนกระทั่งวาระสุดท้าย
แม้กระทั่งคืนก่อนหน้าที่เค้าจะเสียชีวิต ในขณะทีกำลังป่วยหนัก เค้าก็ยังยืนยันที่จะไปร่วมงานเลี้ยงระลึกถึงโศกนาฎกรรมมิวนิคที่โอลด์ แทรฟ์ฟอร์ดเพื่อพบปะกับเพื่อนเก่า โดยเฉพาะเหล่าผู้รอดชีวิตเมื่อปี 1958
หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น เค้าก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้พูดหลังมื้อค่ำ และที่สุดท้ายที่เค้าได้ทำหน้าที่นี้คือ คืนนักกีฬาที่แซนด์บัค ในเชสเชียร์ ซึ่งผมก็ได้รับการบอกเล่าว่าเค้าพูดได้เยี่ยมมาก และผู้ฟังก็ลุกขึ้นยืนปรบมือเป็นเกียรติแก่เค้า ความสามารถในการให้ความบันเทิงแก่ผู้คนเป็นสิ่งทีเค้านำมาใช้ในช่วงหลังของชีวิต และเป็นทางออกหลังจากเค้าต้องยุติการค้าแข้งจากอาการบาดเจ็บในโศกนาฎกรรมมิวนิค เค้าแขนหักอย่างรุนแรง และกระดูกเชิงกรามแตกทำให้เค้าต้องเลิกเล่นตอนอายุเพียง 25 ปี แต่ด้วยกำลังใจอันเต็มเปี่ยม เค้าก็เริ่มต้นชีวิตต่อไป และสร้างชื่อในฐานะผู้ให้ความบันเทิงชั้นยอด ซึ่งก็มาจากทั้งประสบการณ์ในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและอารมณ์ขันในสายเลือดแบบชาวไอริช ที่ทั้งเฉียบคม และเป็นเชิงเยาะเย้ย
จีน บลานฟลาเวอร์ ภรรยาของเค้าที่อยู่ด้วยกันถึง 42 ปี พูดในงานศพของเค้าว่า "แจ๊คกี้ยังมีคิวจองตัวไปถึงปีหน้าโน่นหละคะ แม้กระทั่งตอนเค้าต้องนอนซมอยู่บนเตียง สิ่งเดียวที่เค้าคิดก็คือไม่อยากจะให้คนอื่นผิดหวังที่เค้าไปไม่ได้ ความเสียใจอย่างเดียวของเค้าก่อนจะจากไปก็คือไม่สามารถลุกขึ้นไปร่วมงานที่สกอตแลนด์ได้ ตอนสองสามอาทิตย์สุดท้ายก่อนเค้าจะเสีย"
"เค้าตั้งใจจะไปร่วมงานมิวนิคมาก แม้ว่าเค้าจะป่วยหนักอยู่ก็ตาม อาจจะมีคนไม่ชอบเค้าในฐานะนักฟุตบอล แต่ชั้นไม่เห็นว่าจะมีใครที่จะไม่ชอบเค้าในฐานะคนธรรมดาคนนึงเลยจริงๆ"
เค้าติดทีมนักเรียนไอร์แลนด์เหนือแล้วตอนที่ย้ายเข้ามาสู่ชายคาโอลด์แทรฟฟอร์ดในฐานะนักเตะเยาวชน เค้าเคยเป็นเด็กขัดรองเท้าให้นักเตะอย่างชาร์ลี มิตเท่น แต่ด้วยวัยเพียง 22 ปีเค้าก็คว้าเหรียญแชมป์ลีกเหรียญแรกมาได้แล้ว
เค้ายังเคยเล่นเป็นผู้รักษาประตูจำเป็นในเกมนัดชิงเอฟเอคัพปี 1957 กับแอสตัน วิลล่า แทนแกรี่ วู้ดส์ที่ได้รับบาดเจ็บ ในฤดูกาลถัดมาเค้าก็ต้องแย่งตำแหน่งเซนเตอร์ ฮาล์ฟกับมาร์ค โจนส์
แจ๊คกี้ยังลงเล่นเคียงข้างกับพี่ชายของเค้า , แดนนี่, ในทีมชาติไอร์แลนด์เหนือชุดที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่สวีเดนในปี 1958 ด้วย
เค้าไม่ได้ลงเล่นในนัดที่พบกับเร้ด สตาร์ ที่เบลเกรด แต่ก็ร่วมทีมไปด้วยในฐานะตัวสำรอง ตอนเครื่องบินตก แฮร์รี่ เกรกพบเค้านอนอยู่บนรันเวย์ และช่วยเอาเนคไทห้ามเลือดจากแขนของเค้า
แฮร์รี่ ผู้ช่วยชีวิตของเค้า เป็นหนึ่งคนที่เค้าอยากจะเจอในงานรำลึกโศกนาฎกรรมมิวนิค นอกเหนือนักเตะอย่าง ทอมมี่ เทย์เลอร์ เพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของเค้า ที่ไม่มีโอกาสได้กลับมา
....................................................................
เพิ่มเติม

รูปแจ๊คกี้ (ซ้าย) กับ แดนนี่ (ขวา)
สถิติ แจ๊คกี้ ลงเล่นให้สโมสรทั้งหมด 117 นัด ยิงไป 27 ประตู
ประเดิมสนามนัดแรก ออกไปเยือนลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ในบอลลีก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1951 (เสมอ 0-0)