ตอน : ว่าที่บัลลงดอร์

เจ้าลูกบอลทองคำที่เหมาะสำหรับแข้งระดับทองคำเท่านั้น
ใกล้เข้ามาอีกคืบนึงแล้ว สำหรับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ของอาชีพนักฟุตบอลเข้าไปทุกที ว่าปีนี้ใครจะเป็นผู้เล่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการได้รางวัลนี้ไปครอบครอง ซึ่ง ณ วินาทีนี้ เส้นทางของปีกนรกที่ซาตานส่งมาเกิดอย่าง ไอ้ Jet โด้ นับว่าใกล้สดใสไปทุกที เมื่อดูจากผลงานโดยรวมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า อาจจะเป็นรองในเรื่องชื่อเสียงและถ้วยโทรฟี่ กับ เพลยเมคเกอร์ ชาว บราซิลเลียน ที่หล่อผิดมนุษย์มนา ถ้าเทียบกับนักเตะแดนกาแฟด้วยกัน อย่าง กาก้า ก็ตาม
ในรายชื่อเสนอเข้าชิง 50 คนสุดท้ายนี้ มีบรรดาเหล่าเด็กผี ถูกนำชื่อเสนอเข้าชิงถึง 4 รายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ไรอัน กิ๊กส์ , พอล สโคลส์ , เวย์น รูนี่ย์ และคนที่ดูโดดเด่นและเต็งจ๋ามากที่สุดสำหรับรายการนี้ นั่นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ช่วยทำผลงานกระชากลากเลื้อย เค้นฟอร์มระดับ เวิล์ดคลาส ที่มีส่วนช่วยทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และหวิดเกือบจะได้ครอบครอง เอฟ เอ คัพ และ ยูโรเปี้ยนคัพ ตามลำดับ
ถึงแม้ว่า รางวัลนี้จะมอบให้กับเหล่าบรรดานักเตะแข้งทองก็จริง แต่เหล่าบรรดาสาวก ยูไนเต็ด ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อนักเตะจากถิ่นโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด นี้ได้ลูบๆ คลำๆ กับ ลูกบอลทองคำนี้ แค่ 3 คน เท่านั้น แถมยังเป็นนักเตะตำนานรุ่นเดอะ อีกต่างหาก นั่นก็คือ ท่านเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน , ราชาสตั๊ดเหินหาว เดนิส ลอว์ และปีกมหาภัย จอร์จ เบสต์ ผู้ล่วงลับ ซึ่งตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นศตวรรษที่ 21 ยังไม่มีใครเฉียดฉิวกับผลงานนี้เลย
ในปี 1999 ที่ถือว่าเป็นปีทองที่สุดสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น กลับชวดรางวัลนี้น่าเสียดาย หลังจากส่งมิดฟิลด์สุดหล่อที่ยิงฟรีคิกได้แม่นเหมือนกดรีโมต อย่าง เดวิด เบ็คแฮม เข้าประกวด แต่ก็ทำดีที่สุด ได้แค่ที่ 2 รองจาก "นิเชา" ริวัลโด้ ที่ฟอร์มจัดจ้านมากๆ ในช่วงเวลานั้น ซึ่งเจ้านิเชา กระเบื้องโอฬารห้าห่วงนั้น มีคะแนนอยู่ที่ 219 คะแนน ขณะที่ พ่อหนุ่มเบ็คส์ มีคะแนนเพียงแค่ 154 คะแนนเท่านั้น

คนที่ใกล้เคียงรางวัลนี้มากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาก็คือ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งได้ที่ 2 รองจาก ริวัลโด้
ทีนี้ เราย้อนเข้าเรื่องมายังปัจจุบันกันดีกว่า รางวัล บัลลงดอร์ปีนี้ มีผู้ท้าชิงอยู่ 2 คนด้วยกัน ที่มีแววสดใส เปล่งประกาย เหมือน พอนด์ส ไวท์ บิ้วตี้ ดีท็อกซ์ จะเห็นเป็นใครไม่ได้นอกจาก ริคาร์โด้ กาก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองสตาร์ดาวดังสไตล์ละติน ที่ต่างมุ่งหมายจองถ้วยนี้กันแล้ว

กาก้าและโรนัลโด้ ต่างก็มีดีพอที่จะเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปีนี้
เรามาดูทางด้านฝั่ง ริคาร์โด้ กาก้า กันก่อนดีกว่า กาก้านั้น ทำผลงานได้อย่างสุดยอด เมื่อพาทีม เอซี มิลาน ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก พร้อมกับเป็นดาวซัลโว ยิงไป 10 ประตูในแชมป์เปียนส์ลีก และปีนี้ ก็ฟอร์มร้อนแรง ยิงไปทั้งหมด 8 ประตูของทุกรายการ ซึ่งฟอร์มก็ยังไม่ธรรมดาจริงๆ
ขณะที่ โรนัลโด้ ฤดูกาลที่แล้ว ยิงประตูในทุกรายการ รวมกันแล้วได้ถึง 23 ประตู เท่ากับ เวย์น รูนี่ย์ แต่เขามีส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพ รวมถึงการทำให้รูปเกมของยูไนเต็ด โดยรวมกลับมาซี้ดซ้าด ประหนึ่งต้มยำแซ่บใส่พริกและมะนาวไปเยอะ (พูดแล้วเปรี้ยวปาก)
แต่แล้วปัญหาใหญ่ที่อาจจะเป็นอุปสรรค หรือข้อเสียอย่างร้ายแรง ที่โรนัลโด้มี แต่กาก้า ไม่มีก็คือ ฤดูกาลนี้ ผ่านการแข่งขันมาแล้ว 10 กว่านัด แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งรองจ่าฝูงของลีก ขณะที่มิลานฟอร์มยังคงบู่ รั้งอันดับ 9 ในลีก แข่งไปทั้งหมด 11 นัด ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 3 มีทั้งหมด 14 คะแนน ตามหลังเพื่อนข้างบ้าน อย่าง อินเตอร์ อยู่ 10 คะแนน และแข่งน้อยกว่า มิลาน 1 นัดด้วย!
จะว่าไปแล้ว ก็เป็นที่น่าสังเกตุเหมือนกันว่า คู่ชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก ปีที่ผ่านมา ต่างพากันโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงของตัวเองในลีก ส่งผลทำให้เกาะอันดับกลุ่มอยู่กลางตาราง ณ ขณะนี้ ส่วนอีกทีมนึง มีแววว่า จะได้ไปเล่น ยูฟ่า คัพ เพื่อไปแย่งกระชากแชมป์ มาจาก บาเยิร์น มิวนิค!!

คู่ชิงชนะเลิศ UCL ปีที่แล้ว ต่างพากันออกฟอร์มเทพสุดๆ ในฤดูกาลนี้
ผมไม่รู้เหมือนกันว่า รางวัล บัลลงดอร์ปีนี้ จะวัดที่ผลงานส่วนบุคคล หรือ ผลงานสโมสรในปัจจุบันนี้ด้วย แต่ถ้าเกิดนับองค์ประกอบ ทุกๆ อย่าง รวมๆ กันแล้ว เด็กชาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดอส ซานโตส อเวโร่ เจ็ตโด้ ผู้นี้ จะกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของแมนฯยู ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากนิตยสาร France Football ก็เป็นได้
ManSmith