ก่อนที่จะเริ่มต้นหัวคอลัมน์ กระผมได้ฤกษ์ยามดี กลับมาเขียนอีกคำรบ แหะๆ เนื่องจากว่า ช่วงนี้เริ่มพอมีเวลาว่าง เขียนให้อ่านสบายเพลินตาไปได้ครับผม
แต่ทุกครั้งต่อไปนี้ ผมขอย้ำเสมอว่า นี่คือคอลัมน์เกี่ยวกับฟุตบอลทั่วไป บางทีอาจจะยาวเกินจนลายตา แต่ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านแล้ว ช่วย Comment ด้วยก็ดีนะครับ เพราะจะได้เป็นกำลังใจในการเขียนต่อไป ทุกๆ วัน
แหะๆ เขียนครั้งล่าสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 และดันทะลึ่งมาเริ่มเขียนอีกทีวันนี้ วันที่ 17 มกราคม 2551 ทำไปได้เชียว

อย่าลืมนะครับ กำลังใจจากผู้เขียน ก็มาจากจำนวน Comment เนี่ยแหละครับ
อิอิ เพราะฉะนั้น อย่าลืมช่วยขุด เอ้ย! Comment กันเยอะๆ นะครับผม
ปล. Blog ผมเพิ่งสร้างมาใหม่ รวมคอลัมน์แบบนี้ไว้หมดแล้ว (ยกเว้น วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ link เสีย)
คุยกันเรื่อยเปื่อยภาษาลูกหนัง
ตอน : วิบากกรรมของน้าหนวด

เพราะหนวดนี่แหละ จะทำให้เราเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ถึงแม้ว่านัดล่าสุดฟอร์มของยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำ เมอร์ซี่ย์ไซต์ ทีมสีแดง นี้ จะสามารถกระพือปีกได้อย่างงดงาม หลังถล่ม ทีมอันดับท้ายตารางของลีกวัน (ดิวิชั่น 2) อย่าง ลูตัน ทาว์น ได้ขาวสะอาดหมดจด ไป 5 ประตูต่อ 0 ทั้งๆ ที่นัดที่ผ่านมา เล่นในบ้านของลูตัน ทาว์น ทีมลิเวอร์พูล เจ้าแห่งยุโรป ที่คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ ไป 5 สมัย มากที่สุดในทีมจากประเทศอังกฤษ เล่นอย่างกะทีมที่อยู่นอกลีก อย่างไงอย่างนั้นเลย
ผลงานที่ผ่านมาของลิเวอร์พูล ออกแนวลุ่มๆ ดอนๆ ถึงแม้ว่าจะไม่แพ้ใครมา 7 นัดติดต่อกัน หลังจากพ่ายยูไนเต็ด คาถิ่นแอนฟิลด์มา 1-0 (รู้นะว่าเธอเจ็บ) แต่ 4 นัดหลังสุด พี่แกเสมอ 4 นัดรวด จนทำให้ทอม ฮิลดจ์ และ จอร์จ ยิลเลตต์ เริ่มแสดงอาการไม่พอใจกับการมีชีวิตอยู่ในแอนฟิลด์ ของกุนซือเทวดา (เห็นเด็กหงส์เขาเรียกกันแบบนั้นนะ) จอมแทคติกอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ มากขึ้นไปทุกขณะ จึงต้องดอดไปหาน้าชาติ เอ้ย น้าหลาม หรือ เจอร์เก้น คลิ้นสมันต์ ผู้ทำทีมให้เยอรมันมีชีวิตชีวา ในฟุตบอลสไตล์ใหม่เลือดแรงมากที่สุด

น้าฉลามขาว คือ คนที่กำลังจะมาแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจของน้าหนวด เร็วๆ นี้
ผลงานของการเป็นบุนเดส เทรนเนอร์ (โค้ชทีมชาติเยอรมัน) นั้น จัดว่าสะเด่าไม่ใช่น้อย เพราะสามารถพาทีมอินทรีเหล็กก้าวไปถึงอันดับที่ 3 ของฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา (แล้วอังกฤษ หายไปไหน??) ด้วยสไตล์การเล่นเกมรุกแบบจัดจ้าน เล่นเป็นฟุตบอลสมัยใหม่และใช้ระบบ 4-4-2 แทนที่เป็น 3-5-2 สไตล์กองหลัง สวีปเปอร์ แบบในอดีต และทำผลงานจนเข้าตากรรมการได้รับคำชมจากทั่วสารทิศ ถึงแม้ว่าจะไปไม่ถึงดวงดาวก็ตาม (ดีกว่า อีเถิกบ้ากามและกัน)

ลีลามาดมั่นของ น้าฉลามขาว ตอนเป็นบุนเดส เทรนเนอร์
กลับมาที่ลิเวอร์พูลบ้าง ช่วงหลังเกมรุกฝืดๆ เคืองๆ รวมไปถึงเกมรับหลวมโครกคราก และการเสมอติตต่อกัน 4 ครั้ง 4 ครา นั้นมีเหตุจากชนวนหลายๆ อย่างก็คือ อยู่ในช่วงวันคริสมาสต์ ประกอบกับการ...เอ่อ...โรเตชั่น...(อีกแล้ว) จนทำให้เกมรุกและเกมรับหลอนขึ้นไปทุกวี่ทุกวัน ทั้งๆ ที่มีนักเตะราคาแพงหลายคนให้ใช้งานอยู่อีกเพียบ แต่ไม่เคยใช้นักเตะแต่ละคนแบบคุ้มค่าได้เท่าที่ควร จะออกแนวทีมของเสี่ยหมีขึ้นไปทุกที ตรงที่ ซื้อนักเตะมาติดก้นสลับให้เสียข้าวสุกไปเปล่าๆ แต่จะต่างกันตรงที่ว่า ทุกคนได้ลงมาเล่นเท่าเทียมกัน

ถ้าวันไหนไม่มี สตีฟวี่ จี และ เอล นินโญ่ งานนี้มีบรรลัยแน่นอน
ก็จริงอยู่ที่ว่าบักเจิดนั้นจะโชว์ฟอร์มร้อนแรง ด้วยการระเบิดถังขี้ น้องๆ ลูตันทาวน์ไปซะ 3 เม็ด นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ว่า ต้องไปพิสูจน์ฝีมือกันอีกทีในศึกพรีเมียร์ชิพเพราะมีศึกพรีเมียร์ชิพรออยู่นัดต่อไปก็คือ การเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า และจะไปเยือนถื่นเวสต์แฮม ในอาทิตย์ถัดไป ซึ่งถ้ามองย้อนหลังไป การขาด เฟอร์นันโด ตอร์เรส ดาวซัลโว ของทีมและ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันห้องเครื่อง ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดูไม่จืดเลยทีเดียว

รีเซ่และผองเพื่อนจะยืนหยัดเคียงข้างน้าหนวดต่อไป
ถึงสถานการณ์ของทีมจะไม่สู้ดี แต่นักเตะทุกคนยังเชื่อมั่นในตัวของ ราฟาเอล เบนิเตซ ถึงขนาดที่ว่า ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ แบ็คซ้ายตีนระเบิด ถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ เมื่อ เอล ราฟา โดนแทงข้างหลัง จากการที่ 2 นายทุนมะกัน แอบไปติดต่อจีบ น้าฉลามขาว เพื่อมาเป็นกุนซือคุมบังเหียนในซีซั่นถัดไป หลังจากที่เจ้าของทีมทั้งสองเข้าใจว่า การมีอยู่ของกุนซือหนวดโจร ผู้นี้จะทำให้ทีมพบกับมือเปล่า
ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกลหรอก เพราะขนาดบริษัทรับแทงพนันพูลชื่อดัง ถึงขนาดตัดทีมลิเวอร์พูลออกไปจากสาระบบการเป็นแชมป์ ด้วยการให้ราคาสุดหรูมาที่ 1-50 (แทง 1 จ่าย 50) ซึ่งราคาพอๆ กับทีมเอฟเวอร์ตัน ทีมคู่รักคู่แค้นร่วมเมืองซะด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ว่า ถ้วยแชมป์ลีกจะไม่ไปสิงสถิตที่แอนฟิลด์เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน
งานนี้ขึ้นอยู่กับว่า นายทุนแดนลุงแซมทั้งสอง นั้นจะจัดชะตาชีวิตของน้าหนวดต่อไปอย่างไร ก็เป็นเรื่องของอนาคต ที่แน่ๆ แฟนบอลและนักเตะทุกคนเชื่อมั่นว่ากุนซือเทวดาที่ทำให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ยุโรปตั้งแต่ปีแรกที่ก้าวเข้ามา จะสามารถฝ่าฟันมรสุมวิกฤตชีวิตไปได้ แต่ต้องมีข้อแม้ว่า ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องไปโกนหนวดเสียก่อน และที่สำคัญ ต้องใช้ผลิตภัณฑ์โกนหนวด ยี่ห้อเดียวกับ 1 ในเจ้าของทีมชาวมะกันของลิเวอร์พูลเสียด้วย!
ManSmith