>1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน
>ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ
>เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าว ม
>าให้ผมเพิ่มขึ้นอีก
>พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแ ม ่ไม่ค่อยหิว"
>นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
>2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
>เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเต ิ บโตของผม
>แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน
>ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน
>เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้กินเนื้อปลาไปแล้ว
>ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม ่
>แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า
>"ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2
>ที่แม่โกหกผม
>3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น
>แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน
>บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน
>"แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก"
>แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หล
>ับ"
>ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
>4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
>แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจ ใ ห้ผม
>มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม.
>เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่
>เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว..
>แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
>ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่ อ น
>แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ"
>นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
>5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
>คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มา จ ุนเจือครอบครัว
>แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้น เ พียงไร
>คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
>พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้ า นที่ผุพัง..ฯลฯ
>เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงา น ใหม่
>แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
>"แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก"
>แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
>6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
>ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ ้าง
>แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า
>ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
>(ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล)
>แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับค ื นให้ผมอีก
>แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐา นะ"
>แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
>7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
>ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที ่ม
>ีชื่อเสียงในอเมริกา
>เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อน ข้างสูง
>เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผม ท ี่อเมริกา
>เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นป ลายของชีวิต
>แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน"
>ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
>8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
>ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ โ รงพยาบาล
>ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
>แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง
>น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุด โ ทรมลงอย่างมาก
>แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่ น ด้วยความลำบาก
>ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝื น
>จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว
>ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร
>หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
>แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
>"ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ ว"
>นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก
>และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
>แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไป อย่างไม่มีวันกลับ
>หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง.........
>แปลและเรียบเรียงจาก English Forward Mail -"mother's 8 lies"