ตำแหน่ง กองกลาง วันเกิด 17 มีนาคม 1994 (29 ปี)
สถานที่เกิด ออสเตรีย ส่วนสูง 178 ทีมชาติ ออสเตรีย เข้าร่วมทีม 31 มกราคม 2023
มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จอมทัพจากออสเตรีย ผู้ถูกยืมตัวมาจากยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา
ซาบิตเซอร์เกิดในเมืองเวลส์ของออสเตรียตอนบน และมีบิดาเป็นอดีตนักเตะทีมชาติออสเตรียอย่าง เฮอร์ฟรีด ช่วงเยาวชนของซาบิตเซอร์นั้น เจ้าตัวลงเล่นกับ 4 สโมสรของออสเตรียก่อนจะไต่เต้าสู่ระดับอาขีพที่แอดมิร่า วอคเกอร์ หลังจากเปิดตัวกับสโมสรเมื่ออายุ 16 ปีในปี 2010 เขายิงได้ 2 ประตูจากการลงเล่น 8 นัดจนเลื่อนชั้นไปเล่นบุนเดสลีกาของออสเตรียได้สำเร็จ
พรสวรรค์ของเขากลายเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนเมื่อซาบิตเซอร์ทำไป 5 ประตูและ 3 แอสซิสต์ในการประเดิมสนามในลีกสูงสุด และเปิดตัวในระดับทีมชาติอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 18 ปี ด้วยความชื่นชมจากผลงานของเขา แอดมิร่า วอคเกอร์จบอันดับสามในปีนั้น และคว้าโควต้ายูโรปาลีกได้สำเร็จ
เขาถูกราปิด เวียยนา คว้าตัวไปในเดือนมกราคมปี 2013 ซึ่งเขายังคงลงเล่นกับลีกในประเทศต่อไปและก่อนที่จะย้ายไปเยอรมนีเมือจบฤดูกาล แต่ว่าแม้จะเซ็นสัญญาสี่ปีกับไลป์ซิก แต่ซาบิตเซอร์ก็ยังลงเล่นในบ้านเกิดด้วยการยืมตัวที่ ซัลสบวร์ก ซึ่งเขาพิสูจน์อีกครั้งว่าความสามารถของเขานั้นใหญ่เกินไปสำหรับลีกนี้เมื่อเขาทำไป 19 ประตูและทำอีก 16 แอสซิสต์ให้กับทีมแชมป์ลีกออสเตรียในฤดูกาลดังกล่าว
ในขณะที่ตอนนี้เราคุ้นเคยกับการได้เห็นไลป์ซิกในการชิงแชมป์และพื้นที่ด้านบนตารางคะแนนของบุนเดสลีกา แต่ซาบิตเซอร์เปิดตัวครั้งแรกกับสโมสรในดิวิชั่นสองและได้ช่วยให้พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ ภายใต้การคุมทีมของอดีตผู้จัดการทีมชั่วคราวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง ราล์ฟ รังนิค อย่างไรก็ตาม การก้าวขึ้นมาของซาบิตเซอร์ และทีมนั้น ก็ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีปัญหา เพราะในขณะที่เขาทำไป 8 ประตูในฤดูกาลแรกในบุนเดสลีกา ไลป์ซิกก็จบอันดับที่สองและผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปี 2017
เขารักษาระดับประสิทธิภาพเกมรุกได้อย่างน่าชื่นชมก่อนจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่มีศักยภาพมากที่สุดของบุนเดสลีกา โดยในฤดูกาล 2019/2020 เขาจบฤดูกาลด้วยการทำ 16 ประตูและ 11 แอสซิสต์จากการแข่งขันทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผลงานที่โดดเด่นในแชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย
อีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าประทับใจในฐานะกัปตันทีมไลป์ซิกตามมา โดยผลงานของเขานั้นโน้มน้าวให้บาเยิร์น และอดีตนายใหญ่อย่าง จูเลียน นาเกิลส์มันน์ ทุ่มเงินคว้าเจ้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร ในปี 2021 แต่ชีวิตในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดมากนัก เมื่อซาบิตเซอร์ถูกจำกัดให้ออกสตาร์ทในบุนเดสลีกาเพียง 15 นัดในช่วงฤดูกาลครึ่งที่สโมสร และนำพามาซึ่งความต้องการที่จะลงเล่นมากขึ้นของเจ้าตัว
ในเวทีระดับนานาชาติ ปัจจุบัน ซาบิตเซอร์ติดทีมชาติไปแล้ว 68 นัด และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาได้เป็นตัวแทนของออสเตรียในการแข่งขันยูโร 2016 และยูโร 2020 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของออสเตรียประจำปี 2017 อีกด้วย ซาบิตเซอร์เป็นมิดฟิลด์ที่มีความสามารถอย่างมากในการเล่นเกมรุก โดยทำประตู และแอสซิสต์อย่างสม่ำเสมอตลอดอาชีพของเขา นอกจากเขายังมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการเล่นลูกตั้งเตะ โดยเฉพาะลูกฟรีคิก
เขามีความสามารถรอบด้านอย่างมากเช่นกัน โดยเคยเล่นมาแล้วหลายบทบาท รวมถึงมิดฟิลด์ตัวรุก กองหน้าตัวที่สอง ปีก และมิดฟิลด์ตัวรับ และแม้เดือนมกราคมอาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็สามารถคว้าตัวซาบิตเซอร์มาได้ แม้จะเสียคนสำคัญอย่างอีริคเซ่นไปก็ตาม
|