ใกล้จะวายเต็มทีสำหรับตลาดนักเตะช่วงวินเทอร์นี้ ช่วงนี้จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์วิ่งอุตลุดของบรรดาทีมน้อยใหญ่ ที่หวังได้คนมาอุดรอยรั่วแต่ละแห่งของตัวเอง แต่ละทีมต่างช๊อปมากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่สภาพรูรั่วว่ามีมากขนาดไหน
แต่ในขณะที่ทีมอื่นต่างวิ่งกันวุ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับยืนดูอย่างสงบ ปีศาจแดงพัวพันกับตลาดนักเตะเพียงแค่การปล่อยเด็กเยาวชนออกไปหาประสบการณ์ในระเวลาสั้นๆ
"จอนนี่ อีแวนส์" ปราการหลังวัย 20 ปี ที่ได้กลับมาร่วมงานกับ "ซันเดอร์แลนด์" อีกครั้ง
"ลี มาร์ติน" ปีกวัย 20 ปี ที่จะได้เล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพ กับ "เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด"
"ไมเคิล บาร์นส" ปีกซ้ายวัย 19 ปี ที่พร้อมช่วย "เชสเตอร์ฟิลด์" ให้ขึ้นมาเล่นในลีกวันอีกครั้งหนึ่ง
"คีแรน ลี" ฟูลแบ๊กวัย 19 ปี ที่จะมีส่วนร่วมในการกอบกู้ "ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์" ในลีกแชมเปี้ยนชิพ
"เฟเบียง แบรนดี้" ศูนย์หน้าวัย 18 ปี ที่จะได้ล่าประตูกับ "สวอนซี ซิตี้" จ่าฝูงของลีกวัน
และมีการปล่อยนักเตะดาวรุ่งบางคนออกจากทีมไปเท่านั้น
"ฟิล บาร์ดสลี่ย์" แบ๊กขวาวัย 22 ปี ย้ายไปร่วมทีม "ซันเดอร์แลนด์" หลังจากตกลงค่าตัวกันได้ที่ 2 ล้านปอนด์
"ไรอัน ชอว์ครอส" เซ็นเตอร์แบ๊กวัย 20 ปี ที่จะได้เล่นให้กับ "สโต๊ค ซิตี้" อย่างถาวร ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์
"อดัม เอ็กเคอร์สลี่ย์" แบ๊กซ้ายวัย 22 ปี จะได้ปักหลักอยู่กับ "พอร์ท เวล" โดยไม่มีค่าตัว
ปัจจัยที่ทำให้จ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในตลาดรอบนี้ น่าจะมาจากสภาพทีมที่ลงตัว และนักเตะทุกคนยังเล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจ ไม่ว่าใครจะได้รับโอกาสลงสนาม อีกทั้ง "ป๋าเฟอร์กี้" ก็ได้ออกมาเผยไต๋ก่อนตลาดนักเตะจะเปิดรอบ 2 เสียอีก ว่าจะไม่มีการเสริมทัพเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดเผยของผู้บริหารระดับสูงอย่าง "เดวิด กิลล์" ในเวลาต่อมา
แต่อีกปัจจัยที่มีส่วนไม่น้อยต่อการตัดสินใจไม่โดดลงมาร่วมช๊อปปิ้งในตลาดรอบนี้ของปีศาจแดงนั้นเพราะ "ปัญญาขาดแคลนศูนย์หน้ากำลังเสริม" ซึ่งดูจะเป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงกันมากตลอดครึ่งฤดูกาลแรก ได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยไปแล้วก่อนที่ตลาดนักเตะจะเปิดเสียอีก
จากการมาของ "มาเตอุส อัลแบร์โต คอนเตราส กอนคัลเวส" หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม "มานูโช" นักเตะที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกปากว่ามีส่วนคล้ายกับ "โซลชาร์" ตำนานซุปเปอร์ซัพของทีม
ศูนย์หน้าชาวแองโกล่า ตกลงย้ายจาก "เปโตร แอตเลติโก" มาร่วมค่าย โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสัญญา 3 ปี และมีกำหนดเดินทางมาร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม หลังศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ปิดฉากลง
แต่เส้นทางสู่โรงละครแห่งความฝันของมานูโช กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หวัง เมื่อการขอ "เวิร์ค เพอร์มิท" ครั้งแรก ถูกปฏิเสธกลับมาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมานูโชไม่อยู่ในข้อกำหนดที่กระทรวงมหาดไทยอังกฤษตั้งไว้สำหรับนักเตะนอกสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งอันดับโลกเฉลี่ยของทีมชาติแองโกล่า และการลงเล่นในนามทีมชาติ จนยูไนเต็ด ต้องดำเนินการ "ยื่นอุทธรณ์" ในระยะเวลาต่อมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ในการขอเวิร์ค เพอร์มิท ให้กับนักเตะในสังกัด ก่อนหน้านี้ทั้ง "ปาร์ค จีซุง" และ "แอนเดอร์สัน" ก็ผ่านสถานการณ์นี้มาแล้วทั้งสิ้น โดยอาตี๋ปาร์ค ผ่านมาด้วยผลงานที่ทำไว้กับ "พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น" และฝีปากของ "กุส ฮิดดิงค์" ส่วนแอนเดอร์สัน ก็ฟันฝ่ามาด้วยสัญชาติ "บราซิล" และพรสวรรค์ของเจ้าตัวที่แสดงไว้กับ "เอฟซี ปอร์โต้" แต่ในรายของมานูโช ท่าจะลำบากมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าตัวมาจากทีมที่ชื่อ "เปโตร แอตเลติโก" ไม่ใช่ "พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น" และถือสัญชาติ "แองโกล่า" หาใช่ "บราซิล"
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่สร้างความกังวลอย่างมากให้กับฝ่ายกฎหมายของยูไนเต็ด จนมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ศูนย์หน้าคนใหม่อาจต้องเริ่มต้นสัญญาในปีแรกกับยูไนเต็ด ด้วยการยืมตัว โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ "พานาธิไนกอส" ยอดทีมจากกรีซ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับ "คาร์ลอส เคยรอส" แต่นั้นเป็นความกังวลก่อนที่ศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ จะเปิดฉากขึ้น
ทันทีที่ศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รูดม่านเปิดฉาก มานูโชก็แสดงให้เห็นว่า ยอดทีมจากเกาะอังกฤษไม่ได้ตัดสินใจผิดในการคว้าเค้ามาร่วมทีม และทำให้บรรดาแฟนปีศาจแดงหมดความสงสัยในฝีเท้าอีกต่อไป เมื่อมานูโชทำคนเดียว 3 ประตู จาก 4 ประตู ที่แองโกล่า ทำได้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 2 นัด ทำให้ตอนนี้แองโกล่า ขออีกเพียงแต้มเดียว ก็จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทันที
หลังจากการทำประตูอย่างต่อเนื่องของมานูโช ทำให้ประตูเวิร์ค เพอร์มิต เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างเปลี่ยนไปทันที เมื่อสถิติการทำประตูของมานูโช กลายเป็น 8 ประตู จากการลงสนาม 15 นัด เพิ่มทั้งจำนวนการลงสนามที่เป็น "ข้อกำหนดหลัก" และแสดงให้ถึงศักยภาพของนักเตะที่เพียบพร้อมสำหรับศึกพรีเมียร์ ลีก ทำให้เหตุผลที่เคยใช้ในการยื่นอุทธรณ์มาก่อน อาจถูกหยิบยกกลับมาใช้อีกครั้ง
"การที่นำมานูโชมา จะเป็นการพัฒนาวงการฟุตบอลอังกฤษ เพราะเป็นนักเตะที่เก่ง และมีเทคนิคดี" ซึ่งเป็นเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้ "แอนเดอร์สัน" ลงมาวาดลวดลายในเวทีพรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ
ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ตลาดนักเตะก็จะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ
ซึ่งนอกจากจะตรงกับนัดชี้ชะตาการผ่านเข้ารอบต่อไปของแองโกล่าแล้ว ยังเป็นวันตัดสินชะตาของมานูโชกับเวทีพรีเมียร์ ลีก อีกด้วย
หากแองโกล่าสามารถทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้ ก็หวังว่า "มานูโช" จะทะลุเข้าสู่สังเวียนพรีเมียร์ ลีก เช่นกัน
