
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนผมยุ่งๆ เรื่องเปลี่ยนงานใหม่นิดหน่อยเลยหายไปนานเลย แต่บางทีการหยุดสักพักทำให้เรามีวัตถุดิบในการเขียนมากขึ้น แล้วตอนนี้ก็ไปทำงานอยู่ช่อง 7 ฝ่ายรายการกีฬา คงจะมีเรื่องราวดีๆ มาเขียนมากขึ้นในอนาคต
ที่ผ่านมาช่วงเดือนมีนาคม ผมติดตามผลงานของปีศาจแดงทุกนัด จะไม่เขียนถึงคนที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทีมก็คงจะกระไรอยู่ ตอนนี้เหลือเกมในลีกอีก 6 นัด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 4 นัด (ในกรณีเข้าชิง) เท่ากับว่าในฤดูกาลนี้เหลือเกมให้เล่นอีก 10 นัด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าที่เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ปี 2008 ซัดไปแล้ว 36 ประตู (รวมทุกถ้วย) ทำลายสถิติผู้เล่นที่ไม่ใช่ศูนย์หน้าที่ยิงประตูมากที่สุดของจอร์จ เบสต์ (32 ประตู) ไปแล้ว
ส่วนตอนนี้สถิติยิงประตูมากที่สุดในฤดูกาลเดียวเป็นของ เดนิส ลอว์ (คนที่ส่งมอบเสื้อหมายเลข 10 ให้รูนี่ย์ เมื่อต้นฤดูกาล) ที่ทำไปถึง46 ลูก อีกสิบประตูกับสิบนัดที่ลงเล่น ทำเป็นเล่นไปนะครับ ถึงโรนัลโด้อาจจะไม่ได้ลงเล่นทุกนัดแต่บางนัดที่เขาลงเล่นอาจจะยิงได้ 2-3 ประตู แฟนบอลอย่างพวกเราก็คงได้แต่ลุ้น และให้กำลังใจ ถ้าโรนัลโด้ทำได้เขาจะกลายเป็นมีความสำคัญต่อการเล่นของปีศาจแดงมากที่สุดคนหนึ่งรวมทั้งอาจจะเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดตลอดกาลของแมนฯยูฯ
การได้ลูกบอลทองคำก็จะทำให้โรนัลโด้ ก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่เก่งเทียบเท่า เบสต์ กับลอว์ และถ้าทำลายสถิติการยิงประตูของลอว์ ลงได้ด้วย คงเป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับโรนัลโด้ นะครับ ผมเกิดไม่ทันจอร์จ เบสต์ และไม่เคยเห็นลอว์ เล่นมาก่อน ไม่รู้ว่าฉายาราชาสตั๊ดเหินหาวที่ใครๆ เรียกนั้นเก่งขนาดไหน ถ้าให้เทียบกับคนที่มีอิทธิพลกับเกมรุกของปีศาจแดง มากที่สุดในยุคผมคงเป็นเอริค คันโตน่า ถ้าในชุดสามแชมป์คงเป็นเดวิค เบ็คแฮม (ที่ปีนั้นได้เพียงอันดับสองในบัลลงดอร์)
โรนัลโด้นั้นก้าวข้ามระดับความสำคัญของเบ็คส์ กับคิงก็องโต้ ไปแล้ว ส่วนสองท่านแรกที่ผมไม่เคยเห็นฝีเท้าเต็มๆ (เห็นแค่จากในเทปบ้าง) ก็เทียบเอาจากรางวัลที่ทั้งคู่ได้รับคือบัลลงดอร์ คนละหนึ่งครั้ง เทียบกันอย่างนี้เลยครับไม่ต้องนับยุคสมัย ถ้าโรนัลโด้ ได้รางวัลบอลทองคำเมื่อไหร่ผมมองว่าเก่งเท่าตำนานทั้งสองท่าน
แต่กว่าที่โรนัลโด้จะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็ต้องให้เครดิตกับเพื่อนร่วมทีม และการขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมของตัวเขา เราคงจะเคยได้ยินกันว่าโรนัลโด้มักจะซ้อมต่ออีกเป็นชั่วโมงหลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้วเช่นการยิงฟรีคิก และลูกเล่นต่างๆ ซึ่งตรงนี้คล้ายกับเดวิด เบ็คแฮม
จำกันได้ไหมครับว่าเมื่อก่อนทุกคนต่างสรรเสริญเบ็คส์ว่าใช้พรแสวงเข้ามาทดแทนเทคนิคของตัวเอง ผมว่าโรนัลโด้ ก็ไม่ได้พยายามน้อยกว่าคุณพ่อของโรเมโอ เลยนะครับ ตอนแรกๆ ที่โรนัลโด้ มาถึงเราคงจะเห็นว่าเขาเล่นไม่เป็นเกม วันแมนโชว์ตลอด และมักจะทำเสียบอลอยู่บ่อยๆ ตรงนั้นแหละครับที่เขาต้องพยายามพัฒนาการเล่นของตัวเองขึ้นมา จนกระทั่งตอนนี้ความเป็นประโยชน์ในเกมของโรนัลโด้ ไม่ต่างอะไรจากลูกเปิดของเบ็คส์ ที่แม่นเหมือนจับวางในสมัยก่อน แถมยังดูว่าหลายๆ ครั้งทำอะไรได้มากกว่าเสียอีก ครับมันไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะมายืนตรงจุดที่โรนัลโด้ ยืนอยู่ปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะถ้านับย้อนไปถึงวัยเด็กที่ต้องดิ้นรนต่อสู้อีกหลายอย่าง วันนี้สมควรแล้วกับจุดที่เขายืนอยู่ และกำลังจะก้าวต่อไปเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่สถิติของลอว์ และเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก
"ถ้าเบสต์อยู่ในการดูแลของเฟอร์กี้ และไม่ดื่มเขาคงไปไกลกว่านี้" แฟนบอลคนหนึ่งให้ความเห็น
ในความคิดผมโรนัลโด้นั่นแหละครับคือภาพที่ใกล้เคียงของเบสต์ ที่ไม่ไปดื่มเหล้าจนเละเทะจนอาชีพค้าแข้งนั้นจบไปก่อนเวลาสมควร โรนัลโด้คือภาพของนักกีฬาที่เยาวชนหรือเด็กปีศาจแดง ทั้งหลายควรเอาเป็นตัวอย่าง เขาอาจจะนึกขอบคุณคุณพ่อที่ทำให้เขามีวันนี้ และสอนให้รู้ว่าโทษของสุรานั้นร้ายแรงเพียงใด ขอบคุณแม่ที่ดูแลเขาอย่างดีจนเติบใหญ่ ขอบคุณเฟอร์กี้ ที่ให้โอกาสจนกลายมาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในโลกเวลานี้ แต่อีกสองคนที่โรนัลโด้ ต้องขอบคุณคือเจ้าของเสื้อหมายเลข 7 และ 10 ในชุดแชมป์ยุโรปปี 1968 ด้วยนะครับ เพราะว่าภาพชีวิตการค้าแข้ง และการมีชีวิตอยู่ของทั้งสองเป็นภาพตัวอย่างให้โรนัลโด้ ได้เปรียบเทียบกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ความเห็นผมคิดว่าโรนัลโด้จะยิงได้แค่ 45 ลูกครับ โดยยิงลูกสุดท้ายในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก และไม่สามารถทำลายสถิติของเดนิส ลอว์ ลงได้ เพราะอะไรเหรอครับ เดี๋ยวถ้าเจ้าโด้มันทำลายได้ทุกอย่าง ความท้าทายที่จะอยู่กับปีศาจแดงก็หมดกันพอดีสิครับ เอาไว้อีกสักปีสองปีข้างหน้าพาทีมคว้าสามแชมป์อีกทีแล้วค่อยทำลายสถิติก็ยังไม่สาย แล้วฝากไปบอก รีล มาดริด ด้วยว่าให้รอไปก่อน อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าเฟอร์กี้ จะวางมือนั่นล่ะ