ฟุตบอล เอฟเอ คัพ เป็นศึกฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ และเป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยรางวัลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เลยก็ว่าได้ The Football Association Challenge Cup คือชื่อเต็มๆ ของฟุตบอล FA Cup เริ่มแรกเดิมทีก่อนมีการก่อตั้ง ฟุตบอลรายการนี้ขึ้นมา ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ได้จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรภายในท้องถิ่นขึ้น จนกระทั่งถึงวันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ. 1871 เลขาธิการ สมาคมฯ ชาลส์ อัลค็อก ได้ยื่นเรื่องเสนอว่าสมาคมควรจัดให้มีการแข่งขัน ฟุตบอลระหว่างสมาชิกของสมาคมฯ ขึ้น และฟุตบอล เอฟเอ คัพ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในฤดูกาล 1871-72 มีสโมสรฟุตบอลของอังกฤษเข้าร่วมการแข่งขัน 15 ทีม ในนัดชิงชนะเลิศนั้นเป็นการแข่งขันระหว่างทีม วันเดอร์เรอร์ส พบกับ รอยัล เอ็นจิเนียร์ส และเป็นทีม วันเดอร์เรอร์ส ที่สามารถคว้าถ้วย เอฟเอ คัพ ใบแรกไปครองได้หลังเอาชนะ รอยัล เอ็นจิเนียร์ส ไป 1 - 0 ต่อหน้าแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมในสนาม 2,000 คน และหลังจากนั้นเองศึกฟุตบอลรายการนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ชาร์ล อัลค็อก จึงได้ไอเดียว่าควรจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างชาติขึ้น โดยประเดิมนัดแรกด้วย ทีมชาติอังกฤษ พบกับ ทีมชาติสกอตแลนด์ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1872 ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ เป็นการแข่งขันกันแบบน็อคเอาต์ นั่นหมายความว่าไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ และทีมที่ชนะเลิศคือทีมที่ไม่แพ้ใครเลย เมืองลอนดอนประเทศอังกฤษคือสถานที่สำหรับทำการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ แต่ในปี ค.ศ. 1893 และ ค.ศ. 1915 ได้ย้ายมาจัดที่เมือง แมนเชสเตอร์ ซึ่งครั้งแรกนั้นจัดกันที่สนาม โอวัล และได้เปลี่ยนแปลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็น ลิลลี่ บริดจ์, สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนกระทั่ง มาจัดที่สนาม เวมบลีย์ และกลายเป็นประเพณีสืบทอดกันต่อๆ มาว่านัดชิงชนะเลิศต้องจัดที่สนามแห่งนี้เท่านั้น แต่ภายหลังจากสนาม เวมบลีย์ ถูกทุบทิ้งเพื่อก่อสร้างใหม่ จึงได้มีการย้ายสังเวียนนัดชิง ไปจัดกันที่ มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม แทน ในปี ค.ศ. 2001 โดยปกตินั้นสนามแห่งนี้ ใช้ในการแข่งขันรักบี้ และหลังคาของสนามสามารถปิดเปิดได้สนาม เวมบลีย์ ถูกใช้ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศครั้งแรกในปี ค.ศ. 1923 มีผู้ชมให้ความสนใจเข้าชมเกมถึง 200,000 คน และถูกเรียกขานว่าเป็นแมตช์ White Horse Final เพื่อระลึกถึงม้าชื่อ Billy ที่ตำรวจใช้ผลักดันฝูงชนนับพันให้ออกไปจากสนามแข่งขัน ซึ่งในวันนั้นเป็นการชิงชนะเลิศระหว่างทีม โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ผล โบลตัน ชนะ 2-0
ในปี ค.ศ. 1895 เป็นช่วงที่สโมสร แอสตัน วิลล่า ครองแชมป์ มีการขโมยถ้วยแชมป์เกิดขึ้นในขณะเอาไปตั้งโชว์ที่ร้านขายของที่ระลึก ของทีม ในเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งถ้วยปัจจุบันนั้นไม่ใช่ถ้วยใบเดิม และมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดย ลอร์ด คินแนร์ด ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้มอบถ้วย เอฟเอ คัพ ใบใหม่ให้ แต่หลังจากหมดวาระจากตำแหน่งทางสมาคมได้มอบถ้วยใบนั้นให้กับ ลอร์ด คินแนร์ด ไป และจัดทำถ้วยใบใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งใช้มอบให้กับทีมชนะเลิศมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึง ปี ค.ศ. 1992 ทาง เอฟเอ ได้จัดทำถ้วยใหม่อีกครั้งซึ่งเป็นถ้วยใบเดียว กับที่ใช้กันจนถึงปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟุตบอลถ้วยรายการนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางก็คือ ทีมเล็กๆ นอกลีกก็สามารถเข้าทำการแข่งขันกับทีมใหญ่ๆ ได้ แต่ทุกทีมที่เข้าทำการแข่งขันต้องมีความพร้อมในเรื่องของสนามนัดเหย้า และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งการที่ทีมเล็กสามารถเอาชนะทีมใหญ่ ได้นี่เองที่ทำให้ เอฟเอ คัพ เป็นศึกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง การแข่งขันนั้นจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม และแบ่งเป็นรอบคัดเลือกหลายรอบ ตั้งแต่ Extra-preliminary Round, Preliminary Round, Qualifying Round แล้วจึงมาทำการแข่งขันจริงโดยแบ่งเป็น 6 รอบ รอบแรก มีทีมที่ผ่านการคัดเลือก 32 ทีม และทีมจากดิวิชั่น 2 และ 3 อีก 48 ทีม ส่วนทีมจากพรีเมียร์ชิพ และ ดิวิชั่น 1 นั้น เข้าแข่งในรอบที่ 3 เลย ตามปกติ จะเริ่มแข่งรอบที่ 3 ในช่วงต้นเดือนมกราคม เมื่อจบการแข่งขันรอบที่ 6 จึงจะมีการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศขึ้นนัดชิงชนะเลิศปีนี้จะพบกันที่สนาม มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ เช่นเคย โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้า รอบรอชิงชนะเลิศ และรอพบกับคู่ชนะระหว่าง ซันเดอร์แลนด์ และ มิลล์วอลล์ ที่จะทำการแข่งขันในวันนี้ และมารอลุ้นกันว่าทีมปีศาจแดง จะสามารถคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 11 มาครองได้หรือไม่...
