
เป็นที่ทราบกันเรียบร้อยแล้ว สำหรับตำแหน่ง "นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ จากการโหวตของเพื่อนร่วมอาชีพ (PFA Players' Player of the Year) ประจำปี 2009" ซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ "ไรอัน กิ๊กส์" โดยชอบธรรม เหนือเพื่อนร่วมทีมอย่าง "เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์", "เนมานย่า วิดิช", "ริโอ เฟอร์ดินานด์" และ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" หรือแม้แต่หนึ่งเดียวจากทีมอริ "สตีเว่น เจอร์ราร์ด"
ทันทีที่มีการประกาศผล นอกจากจะมีเสียงชื่นชมยินดีแก่นักเตะเชื้อสายเวลส์เป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีเสียงครหาถึงความเหมาะสมต่อปีกวัย 35 ปีในปริมาณที่ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถิติการลงสนาม และจำนวนประตูที่เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุดทำได้
ก่อนจะคว้าสูทตัวงามขึ้นรับรางวัล กิ๊กส์ ลงสนามบนสังเวียนพรีเมียร์ ไปทั้งหมด 24 นัด แต่กลับเป็นการลงสนามในฐานะตัวจริง และตัวสำรองในปริมาณเท่าๆ กัน แถมยังทำได้เพียงประตูเดียว ซึ่งดูจะเป็นรองผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงทุกคน โดยเฉพาะ เจอร์ราร์ด ที่กลายเป็นหัวโจกในการสถาปนา "ลิเวอร์พูล" ขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของปีศาจแดงอย่างเป็นทางการในปีนี้
ด้วยวัย และพละกำลังที่แปรผกผันกัน จึงไม่แปลกที่ "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" จะเลือกใช้บริการ กิ๊กส์ ในปริมาณที่พอเหมาะ ด้วยในขณะที่แดนกลางของปีศาจแดงชุดนี้ต่างเดินเบียดเสียดกันชนิดไหล่ต่อไหล่ แต่ถึงกระนั้น ปีกพ่อมดแห่งเวลส์ ก็ไม่เคยหายหน้าไปจากสนามเกิน 1 นัด โดยมีการสลับตำแหน่งมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวกลางอยู่เนืองๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวัง แม้จะส่องได้เพียงประตูเดียว แต่ก็ถูกชดเชยด้วยการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูสูงที่สุดในทีม ซึ่งเป็นแอสซิสในพรีเมียร์ ลีกถึง 7 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 2 ครั้ง, คาร์ลิ่ง คัพ 3 ครั้ง, แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ครั้ง และสโมสรโลกอีก 3 ครั้ง

นับตั้งแต่ก้าวสู่ชายคาโรงละครแห่งความฝันตั้งแต่อายุ 14 ปี และถูกส่งลงสนามแทน "เดนิส เออร์วิน" ในเกมกับเอฟเวอร์ตัน จนกระทั้งกลายมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาล 1991-92 ไรอัน กิ๊กส์ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ปีศาจแดงครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษมาเกือบ 2 ทศวรรษ และคว้าแชมป์กับทีมมาแล้วทุกรายการที่ลงแข่งขัน พรีเมียร์ ลีก 10 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, คอมมูนิตี้ ชิลล์ 7 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ 1 สมัย
แต่สำหรับเกียรติประวัติส่วนตัวแล้ว กิ๊กส์ สามารถคว้าได้เพียง "นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ" 2 สมัย ในปี 1992 และ 1993 ซึ่งถือเป็นดาวรุ่งคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ 2 สมัย แถมยังเป็น 2 สมัยซ้อนด้วย นอกจากนั้นก็เพียงแค่มีชื่อในทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 8 สมัยเท่านั้น
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่เหล่าบรรดาแมงเมาท์เชื่อกันว่า บรรดาเพื่อนร่วมอาชีพต่างร่วมกันโหวตให้ กิ๊กส์ คว้ารางวัลนี้ไปครอง ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในระยะเวลาอันใกล้นี้
แต่เชื่อเถอะว่าหากไม่มีดีจริง คงไม่มีชื่อแม้แต่เข้าชิง และทุกผลโหวต ไม่ใช่เพราะแค่เห็นใจ แน่นอน!!
แม้ระยะหลังมานี้ กิ๊กส์ จะได้รับมอบหมายให้เป็นแพะจากความพ่ายแพ้ของทีมหลายต่อหลายครั้ง แถมยังถูกปรามาสจากแฟนบอลต่างๆ นานา ช้าไปแล้วสำหรับพรีเมียร์บ้าง มีไว้ในทีมเพียงเพื่อสอนรุ่นน้องบ้าง หรือแม้แต่อยู่ไปวันๆ เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรเท่านั้น ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีแฟนบอลที่ได้ชื่อว่า "เรด อาร์มี่" อยู่ไม่น้อย
แต่สำหรับปีนี้ เจ้าของหมายเลข 11 กลับมาร่ายมนต์อีกครั้ง และแสดงให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่า "ประสบการณ์สำคัญต่อการคว้าแชมป์อย่างไร" แม้จะไม่ได้เห็นการพลิ้วไหวดั่งสายน้ำเหมือนสมัยหนุ่มๆ แต่ทุกครั้งที่บอลออกจากเท้าก็ล้วนแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพทั้งสิ้น ไม่ฉาบฉวยแต่ก็ไม่โฉ่งฉ่าง อาจจะไม่ได้เร็วดังเก่า แต่เทคนิคของเขาก็ยังช่วยให้กระชากผ่านคู่แข่งได้เหมือนเดิม อันจะเห็นได้จากการเปิดบ้านต้อนรับ "ปอร์ทสมัธ" นัดสุดท้ายก่อนจะได้รับรางวัล กิ๊กส์ ทิ้งให้นักเตะปอมปีย์ไล่หลังหลายต่อหลายจังหวะ ด้วยวัย 35 ปี!

ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ด้วยการลงเล่นให้เพียงสโมสรเดียว แม้จะประสบความสำเร็จมากขนาดไหน กิ๊กส์ ก็ยังไม่เคยหยุดแสวงหาแชมป์ หลังผงาดครองเจ้ายุโรป ณ กรุงมอสโก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ชูถ้วยแชมป์ ลูกพี่ใหญ่ที่ยิงจุดโทษปิดท้ายก็บอกแก่รุ่นน้องอย่างมั่นใจ "นี่แหละที่พวกเราช่วยกันฟันฝ่ามา ปีหน้าเอาใหม่"
ไรอัน กิ๊กส์ อาจไม่ใช่นักเตะที่ลงสนามมากที่สุด ไม่ใช่นักเตะที่ยิงประตูมากที่สุด ไม่ใช่นักเตะที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม และไม่ใช่นักเตะที่เจ๋งที่สุดในสายตาแฟนบอล แต่สำหรับเพื่อนนักเตะด้วยกันแล้วต่างยกย่องเขาว่า "ยอดเยี่ยมที่สุด"
ถ้ามีสิทธิโหวต ผมก็จะกาโหวตหน้าชื่อ "ไรอัน โจเซฟ กิ๊กส์"
ไม่ใช่เพราะเป็นแฟนผี
ไม่ใช่เพราะเป็นพวกตามกระแส
ไม่ใช่เพราะเป็นคนเห็นอกเห็นใจ
แต่เพราะคนที่โหวตให้ มีพร้อมด้วยความยอดเยี่ยม
ยอดเยี่ยมในทุกๆ อย่างที่นักเตะอาชีพพึงมี