เหลือเวลาอีกแค่เดือนเศษ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ก็จะได้บทสรุปแล้วนะครับ ว่าทีมใดจะคว้าโทรฟี่แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษไปครอง เชื่อว่าการต่อสู้ในเกมการเล่นที่เหลือของกลุ่มทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เชลซี และอาร์เซน่อล จะยังคงยืดเยื้อไปจนถึงนัดสุดท้ายของซีซั่น
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องประตูได้เสียก็ถูกนำมาพูดถึงอยู่มากเช่นกัน มันจึงฟ้องให้เห็นถึงความเข้มข้นของฟุตบอลลีกของชาวอิงลิชชนที่ยิ่งนานวันยิ่งเพิ่มความเข้มข้นขึ้นทุกปี กำไรมันเลยตกแก่แฟนบอลเห็นๆ
อย่างไรก็ดี ในส่วนของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีก ก็เพิ่งจะเปิดฤดูกาล ก็ขอเชิญชวนทุกท่านที่ว่างเว้นจากกิจธุระ เข้าไปชม และเชียร์ทีมรักใกล้บ้านกันนะครับ ฟุตบอลไทยกำลังเติบโต นอกจากเกมการแข่งขันที่ดีแล้ว การเข้าไปมีส่วนร่วมของกองเชียร์อย่างเราๆ ก็จะทำให้ฟุตบอลอาชีพของไทยเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ถ้าคนไทยไม่ช่วยกันสนับสนุน แล้วใครล่ะครับจะมาช่วยเรา ว่าแต่นอกเรื่องไปเสียเยอะเลย เข้าเรื่องดีกว่า
ผู้เขียนเชื่อว่าเรด อาร์มี่ ทั่วโลกหากขอพรได้สักข้อนึง เกินกว่าครึ่งพวกเขาจะขอให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่กุมบังเหียนแมนฯ ยูไนเต็ด ไปตลอดกาล แต่เมื่อป๋ากี้เองก็เป็นมนุษย์คนนึงที่มีเงื่อนไขทางกาลเวลาอันส่งผลต่อสังขารเหมือนๆ กับเรา ซักวันก็ต้องมีบุคคลอื่นมาแทนที่
เมื่อป๋าแกวางมือจากการคุมทีมอย่างสง่างาม พร้อมด้วยอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติ คำถามที่มักพบบ่อยนับตั้งแต่ขึ้นปี 2000 จะต้องถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง แต่ใครเล่าจะมีบารมีพอที่จะสืบสานอภิมหาตำนานที่ป๋าแพนด้าแกทิ้งเอาไว้ เพราะมันชัดเจนว่าผลงานของป๋าแกมีมากมายก่ายกองเสียเหลือเกิน
มากเสียจนไม่คิดว่าจะมีใครอาจหาญสร้างตำนานให้เทียบเท่าได้อีก
ถึงจะเป็นงานที่โคตะระหิน แต่ด้วยแบรนด์ และมนต์ขลังของยูไนเต็ด มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีชื่อบรรดาผู้จัดการทีมเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ในสายตาของแฟนบอล บุคคลผู้ที่มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติมิตรกับสโมสรปิศาจอย่าง เอริค คันโตน่า รอย คีน สตีฟ บรู๊ซ และ มาร์ค ฮิวจ์ส มักได้รับอนุญาตให้มีชื่ออยู่ในวงสนทนาเสมอ
มองไปยังตัวเลือกอื่นๆ เช่น มาร์ติน โอนีล กล่าวได้ว่าเขามีผลงานที่น่าประทับใจกับแอสตัน วิลล่า ในรอบหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ฟุตบอลเกมรุกโดยมีจุดแข็งทางการโจมตีทางริมเส้นของเขาน่าจะเหมาะกับการคุมพลพรรคนักเตะปิศาจแดงอยู่เหมือนกัน แต่ประสบการณ์ในเวทียุโรปที่ยังไม่มากพอ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่บรรดาแฟนผีบางส่วนอาจยังไม่มั่นใจ 100%
เมื่อตัวเลือกที่มีอยู่ข้างต้นมันดูไม่ค่อยเติมเต็มความคาดหวังเสียเท่าไหร่ ผู้เขียนจึงมองว่า สโมสรสุดพิเศษอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเนี่ย มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะมีคนพิเศษๆ เข้ามาสืบต่อภารกิจอันยิ่งใหญ่ และสามารถรับมือกับความกดดันมหาศาล ใครซักคนที่เป็นคนพิเศษ ใครซักคนที่เป็น The special one
The special one ในอุดมคติของเราอาจมีหลายอย่างแตกต่างกันไป แต่ในวงการฟุตบอล The special one มีเพียงหนึ่งเดียวคือเทรนเนอร์ผู้ทรนงนามว่า โจเซ่ มูริญโญ่ และนี่คือแคนดิเอตที่น่าสนใจมากๆ ในความคิดของผู้เขียน
ไม่เคยเลยซักครั้งที่มูริญโญ่จะปกปิดได้ว่าเขามีความหลงใหลฟุตบอลอังกฤษมากแค่ไหน และด้วยบรรยากาศในดินแดนรองเท้าบู๊ตที่ทำให้แกมีอาการเซ็งเป็ดมาอย่างยาวนานแล้ว มันยิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้เฮียมูจอมอหังการผู้นี้อยากจะเซย์กู๊ดบาย อินเตอร์ มิลาน คลับปัจจุบันของแกโดยเร็ว แม้ผลงานในลีกตอนนี้จะอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูง และมีโอกาสที่ดีในการคว้าถ้วยสคูเด็ตโต้ก็ตาม
แต่ก็ใช่ว่าเฮียมูแกจะอยากกลับมาสูดกลิ่นฟิชแอนชิพอยู่ท่าเดียว ถึงจะมีข่าวกับสโมสรที่กำลังตามจีบอย่างแมนฯ ซิตี้ ก็ยังไม่พบความคืบหน้า จึงมีผู้สันทัดกรณีมองว่า อดีตกุนซือสิงโตน้ำเงินครามผู้นี้ มีความต้องการที่จะสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าปิศาจแดง เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ วางมือ ซึ่งเมื่อผู้เขียนได้สแกนดูโปรไฟล์และดีกรีของจ่ามู ก็เข้าขั้นดูดีกว่าตัวเลือกอื่นๆ ไม่ใช่น้อย หลากถ้วยแชมป์ในสามแผ่นดิน และโทรฟี่บิ๊กเอียร์อันลือลั่นสมัยคุมเอฟซี ปอร์โต้ อีกทั้งอายุอานามก็ยังไม่มากนักสำหรับจ๊อบผู้จัดการทีม ถ้าบอกว่าไม่น่าสนใจก็กระไรอยู่
จุดติงที่ผู้เขียนมองเกี่ยวกับมูริญโญ่คือ แผนการเล่น 4-3-3 และสไตล์การทำทีมเน้นผลการแข่งขันของเฮียแกนี่ล่ะ อาจจะทำให้แฟนผีอย่างเราๆ ตั้งข้อเดียดฉันท์บ้างไม่มากก็น้อย เพราะแมนฯ ยูไนเต็ด จะทรงพลังที่สุดในแผนการเล่น 4-4-2 โดยที่ไม่เคยขาดผู้เล่นริมเส้นดีๆ คอยทำเกมรุก ซึ่งหากมูริญโญ่เข้ามาจริงๆ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อย่างแน่นอน ทั้งในแง่ของแทคติก และตัวนักฟุตบอลเอง
น้ำหนักที่มูริญโญ่จะเข้ามาสู่โรงละครแห่งความฝันอาจยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริงๆ แฟนผีจะว่ายังไงกันครับ กับผู้ชายที่ชื่อ โจเซ่ มูริญโญ่ คนนี้
