ปากโห่ร้อง มือชูขึ้นเหนือหัว หัวเราะเสียงดัง นั่นแหละ อากัปกิริยาของผู้กำชัยชนะ มันออก มาจากหัวใจที่กำลัง ลำพอง ฮึกเหิม สมองสั่งการ ให้ ปากเปล่งถ้อยคำเย้ยหยัน ไปยังผู้ที่ปราชัย เยาะเย้ย ถากถาง ดูหมิ่น อะไรก็ได้ที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำ และคั่งแค้น รู้สึกถึงความสะใจ ที่พุ่งวาบเข้ามา เมื่อเห็นอีกฝ่าย ก้มหน้า กำมือแน่น ไม่มีคำโต้เถียง เคยเป็นกันไหม?
ถ้าถาม แบบนี้ คนที่ปากตรงกับใจ ก็จะตอบว่า "เคย" คนที่ปากอย่างใจอย่างก็คงตอบว่า "ไม่เคย" อย่าเชื่อ!!!!! ถ้าคุณถามใครแล้ว เขาหรือเธอคนนั้น ตอบคุณว่า "ไม่เคย" เพราะตราบใดที่เขาหรือเธอคนนั้นยังเป็น มนุษย์ ดำรงชีวิตด้วยการ กิน ขี้ ปี้ นอน ทุกคน ย่อมลำพอง และรู้สึกราวกับว่า โลกเป็นของตัวเองทั้งโลก เมื่อได้ กำชัยชนะ แต่ เมื่อโลกยังมีกลางวัน กลางคืน และตราบที่เวลาไม่หยุดนิ่ง ชัยชนะ ก็เช่นเดียวกัน มันย่อมไม่หยุดอยู่กับคุณ หรือใครเพียงคนเดียว มันจะเดินทางไปตามหาผู้ที่ แข็งแกร่งกว่า และ พักอยู่ กับพวกเขาเหล่านั้น เสมอ
บางเวลา มันอาจจะมาอยู่กับคุณ ให้คุณได้รู้สึกถึงความลำพอง คุณอาจจะมัดมันไว้ อาจจะอยากกักขัง หรือเก็บ มันไว้กับคุณให้นานที่สุด หรือตลอดไปแต่ไม่มีทาง มันจะไป เมื่ออยากไป และบางเวลา มันก็ ตลกร้าย เมื่อ มันไปอยู่ กับ คนที่คุณเคย หัวเราะเยาะ และเหยียดหยาม ถึงตอนนั้น คุณจะหัวเราะไม่ออก ไหล่ห่อ ก้มหน้า กำมือแน่น แค้นจนแทบกระอัก นั่นแหละ อากัปกิริยาของผู้ปราชัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา หากวันไหน ชัยชนะ แวะมาเยือน ก็ชื่มชม ยินดี แต่อย่าดูถูก คนที่รับ ความแพ้พ่าย อย่าสร้างความเลวร้ายให้ก่อเกิดในจิตใจ และความรู้สึกของพวกเขาเหล่านั้น
เพราะถ้าคุณทำ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ความเลวร้ายนั้น จะกลับมาหาคุณ แน่นอน เชื่อฉันสิ...