
เมื่อเปิดอ่านด้านใน เราจะพบกับความเงียบเหงาของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ได้เต็มที่ เราจะเห็นตัวเองผ่านชีวิตของคมสันอีกครั้ง ..
คนในเมืองใหญ่ ที่ขับเคลื่อนตัวเองด้วยการตื่นเช้า เบียดเสียดกันบนสื่อสารมวลชนทุกรูปแบบ .. เข้าทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งดำรงชีพที่เรียกว่าเงิน โดยปราศจากแรงบันดาลใจ .. ปล่อยให้ชีวิตเลื่อนไหล เร่งรีบ และลืมแม้กระทั่งจะหยุดมองดูตัวเอง เมื่อรู้สึกตัวก็ถูกบางสิ่งโรยตัวห่มคลุมเอาไว้แน่นหนา ค่อย ๆ บีบรัดตัวเราให้เล็กลง .. จนรู้สึกราวกับว่าเราเป็นเพียงเสี้ยวธุลีในจักรวาล
ความจริงในหนังสือเล่มนี้ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จะกระโดดออกมาฟาดคุณที่หัวแรง ๆ พอจะให้คุณนิ่งอึ้งแล้วหยุดคิด และนึกถึงมันได้อย่างที่ไม่เคยนึกถึง และนี่คือบางส่วนของความจริงในหนังสือ ที่ฟาดเปรี้ยงที่หัวของฉันทันทีที่อ่านประโยคสุดท้ายจบลง
สายฝนแห่งเดือนพฤศจิกายน : คมสัน นันทจิต
ฝนที่ตกลงมาเมื่อคืนนั้น ตกหนักและนาน ตอนผมนั่งรถแท็กซี่วิ่งผ่านไปตามถนน ก็พบกับอุบัติเหตุตามรายทางอยู่หลายจุด ฝนตกถนนลื่น คนขับแท็กซี่บ่นให้ฟัง ผมมองออกไปที่กระจกข้าง แสงไฟถนนส่องกระทบเม็ดฝน เป็นประกายระยิบระยับร่วงเต็มท้องฟ้า มันสวยจนนึกอยากจะบอกใครสักคน Don't ya think that you need somebody Don't ya think that you need someone Everybody needs somebody ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดดูรายชื่อคนที่บรรจุอยู่นั้น แต่ก็ไม่รู้จะโทร.หาใคร.
ฉันขออวยพรให้คุณได้ค้นพบตัวตน และสิ่งที่คุณทำหล่นหายในโลกไขลานของคุณ .. ทันทีที่คุณอ่านจบ เพื่อที่บางสิ่ง จะไม่ถูกเหวี่ยงทิ้งและเป็นเชื้อไฟของความเหงาอีกต่อไป