ผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2011-12 ที่ผ่าน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความล้มเหลวทั้งบอลพรีเมียร์ และบอลยุโรป ส่วนหนึ่งนอกจากจะขาดกองหลังกัปตันทีม หลักๆ ปัญหาคือการสร้างสรรค์เกมส์รุกจากมิดฟิลด์คู่กลาง แม้จะเปิดซีซั่นอย่างเร้าใจด้วยการฮึดแซงแมนฯ ซิตี้ ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วยขุมกำลังแดนกลางยังบลัดสายเลือดใหม่ โทมัส วิลเลี่ยม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ที่นำสไตล์การเล่นง่ายๆ จ่ายบอลอย่างแม่นยำทั้งสั้น และยาว หรือชิ่งหนึ่งสอง ที่ทำให้คู่กองหน้า และปีกสองข้างเติมขึ้นที่ว่างได้อย่างลงตัวมากกว่าแต่ก่อน ไม่เว้นแม้กระทั่ง อันแดร์สัน โอลิเวร่า ที่เกือบจะหมดอนาคตค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อยู่แล้ว กลับมาโชว์ผลงานได้ดีขึ้นเมื่อมีเคลฟเวอร์ลี่ย์ประสานงานด้วยข้าง
จนมาถึงจุดเปลี่ยนเคลฟเวอร์ลี่ย์เจ็บยาวจากการปะทะของแข้งโบลตัน เควิน เดวิส พรากให้ความหวังใหม่ของเหล่าแฟนผีหายจากสนามไปนับจากนั้น จนกระเทือนถึงฟอร์มอันแดร์สันที่กลับสู่สภาวะเดิมๆ ของตนอีกครั้ง เรื่อยไปจนถึงปีกสองข้างที่เดินเกมส์ไม่สะดวก แม้จะมีอดีตพ่อมด ไรอัน กิ๊กส์ แต่ด้วยวัย 38 จึงมิอาจขับเคลื่อนเกมส์รุก ให้ไหลลื่น และรวดเร็วเหมือนช่วงต้นฤดูกาลได้ จึงต้องเดือดร้อน พอล สโคลส์ กลับมาสวมสตั๊ดเฉพาะกิจ
แต่ด้วยการเล่นของมิดฟิลด์คู่กลาง ที่เน้นครองบอล ถ่ายบอลไปมาสลับกับวางยาวไปที่วางให้ปีก โอกาสในการทำประตูจึงมีน้อย เพราะบ่อยครั้งที่บอลไปถึงแดนหน้าต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ หรือพลาดโดนสวนกลับจนเสียประตู
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจึงมักทวงประตูคืนยากเมื่อพลาดโดนนำไปก่อน เพราะทีเด็ดในแดนกลางมีน้อย จึงพลาดแต้มสำคัญๆ ไปมากมาย เป็นเหตุให้จบท้ายด้วยความผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อถึงช่วงหน้าร้อน ป๋าเฟอร์กี้จึงไม่รีรอคว้าตัว ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่นมาร่วมทีม เพื่อสร้างมิติใหม่ให้เกมส์รุกในแดนกลาง ไม่ว่าจะเล่นแผนหน้าเดี่ยวหรือคู่ จุดเริ่มต้นสำคัญคือการสร้างสรรค์โอกาสจากมิดฟิลด์ แม้จะมี นิคกี้ พาวเวลล์ มาเพิ่ม หรือไรอัน ทันนิคลิฟฟ์ จากทีมสำรอง แต่ทั้งคู่คงเป็นอนาคตของทีมในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า ฉะนั้นแดนกลางทีมตอนนี้จึงมีเพียง คาร์ริก, เคลฟเวอร์ลี่ย์, อันแดร์สัน สามคนเท่านั้นที่เป็นตัวหลัก (ไม่ขอนับกิ๊กส์ กับสโคลส์ นะ) และในสามคนนี้ยังมีหนึ่งคนที่ทำฟอร์มหล่นหายหลังเจ็บไปนาน ยังกู่ไม่กลับ เสียเครดิตแข้งบราซิลไปพอสมควร
จึงมีข่าวลือต่างๆ นานาออกมาตลอดว่า ป๋าเฟอร์กี้เล็งสอย มูร่า บ้าง โมดริช บ้าง แม้เศษเสี้ยวจะมีความจริงอยู่ แต่เชื่อได้เลยว่าเกินครึ่งคือการแต่งเติมสีสันของสื่อ จนตอนนี้ข่าว สไนจ์เดอร์ หรือมูเนียอิน เริ่มเก็บเข้าลิ้นชักไปแล้ว และผมเชื่อเหลือเกินว่า ทุกๆ คนที่ย่อมคาดหวังจะเห็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์ก้าวเข้ามาสู่ทีม เพราะคงเร็วเกินไปที่จะผลักภาระให้กับแข้งยังบลัดอย่าง พาว์เวลล์, ทันนิคลิฟฟ์, เปรตุซซี่ และลินการ์ด
