จากการพ่ายแพ้ต่อลีลล์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 ส่งผลให้ความพยายามในการเข้ารอบดูถึงกับเริ่มตีบตันขึ้นมาทันที สถานการณ์ที่เหลืออยู่ก็ไม่พ้นสภาพสุนัขที่จนตรอก สู้ยิบตา หลังพิงฝา หรืออาจจะสรรหาคำอะไรก็ได้มาเปรียบเปรยทีมยอดรักได้ขนาดนี้ ในการเล่น 2 นัดสุดท้ายนี้จะต้องเล่นเพื่อให้รอดจากการหล่นไปเล่นในถ้วยน้ำจิ้มอย่าง ยูฟ่า คัพ ซึ่งนั่นไม่ต่างกับการต่อสู้ดิ้นรนหนีการตกชั้น ซึ่งบางทีเราต้องมีความรู้สึกอย่างนั้นบ้าง เพราะเคยตัวกับการช่วงชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนมานาน

ย้อนไป 4 วันก่อนหน้าเกมกับทีมจากฝรั่งเศส ที่ผ่านมากับมิดเดิ้ลสโบรซ์ มันสะท้อนให้เราเห็นอะไรบางอย่างกับฟอร์มการเล่นที่แผ่วอย่างน่าใจหาย แบบว่า "กู่ไม่กลับ" ไม่สิ ต้องเรียกว่า "กูไม่กลับ" มากกว่า และรับไม่ได้กับผลการแข่งขันที่อัปยศเช่นนี้ เชื่อว่าหลังจากวันนี้แทบลอยด์ชื่อดังต่างเริ่มขยับปรับราคาและฟันธงทีมเต็งแชมป์และอันดับ 2-3 กันแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ปรากฏคำว่า Manchester United หลังจากโชว์ฟอร์มการเล่นได้น่าประทับใจแฟนหงส์และปืนอย่างต่อเนื่อง

เกิดอะไรขึ้น? ลองไปถามผู้เล่นในทีมกันดู....

คีน "ผู้เล่นทีมเรามันห่วยแตกสิ้นดี ซึ่งไม่ต้องบอกอีกนะว่าใคร ก็ 5 คนนั้นไง ความจริงก็ทั้งทีมนั่นแหละ"

รุด "ตอนนี้สปิริตขของทีมไม่เหมือนเดิมแล้ว"

ได้ฟังแค่นี้ก็รู้สึกวูบๆ ขึ้นมาทันที อีกทั้งยังรู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก สภาพก็ไม่ต่างจากคนตายไร้ความรู้สึก

ปวดใจครับ พูดได้คำเดียว ไม่นึกว่า ทีมที่สปิริตสูงที่สุดในพรีเมียร์ชิพ ยอมแม้กระทั่งพลีชีพเล่นเพื่อชัยชนะ กลับไม่เหลือแม้กระทั้งจิตใจที่จะเล่นเพื่อทีม บรรดาผู้เล่นค่าตัวเรือนแสนกลับแสดงความสามารถออกมาไม่ต่างจากผู้เล่นเกรดซี เล่นกันเหยาะแหยะ เหมือนคนไม่มีแรง หรือว่าเรามิอาจหาความดุดันได้เฉกเช่นเมื่อวันวานที่ยังหวานหอมอยู่

จากการออกมาตอบโต้วิจารณ์เพื่อนร่วมทีมของหัวหน้าแก็งค์อย่างลูกพี่ รอย คีน นั้น บ้างก็ว่าเป็นการไม่เหมาะสม เข้าข่าย "ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า" แต่โดยธรรมชาติของ คีน แกเป็นคนพูดโผงผางออกมาตรงๆ เสมอเพื่อกระตุ้นเลือดบ้าในตัวออกมา หากใครบ้าไม่พอก็ไม่ดีพอที่จะอยู่กับสโมสรต่อไป นั่นคือความรับผิดชอบที่ คีน มาดหวังในตัวลูกทีมมาตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สักวัน คีน จะหน้าเลือดออกมาเชือดลูกทีมเป็นรายบุคคลโดยขานชื่อให้ชาวบ้านรับรู้โดยทั่วกัน

แน่ล่ะเฟอร์กี้ เองต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา เพราะแกเป็นคนที่ปกป้องลูกทีม ไม่ว่าอะไรก็จะออกรับหน้าแทนเสมอ ซึ่งนั่นตรงข้ามกับ คีน ที่แสดงออกมา ในทันทีสื่อก็จับประเด็นร้อนในเคสนี้อย่างใจจดใจจ่อในเรื่องของความน่าจะเป็นและอนาคตของ คีน ที่จะปิ๋วไปก่อนเวลาอันควร หลังจากระหองระแหงกันมานาน แม้ว่าจะออกมาปฏิเสธว่าความสัมพันธ์กันดีอยู่ก็ตาม

หากมองศักยภาพของผู้เล่นชุดนี้เมื่อเทียบกับเมื่ 10 ปีก่อน เห็นได้ว่ามีความเหลื่อมล้ำกัน นั่นคืออะไร? ความมุ่งมั่น เอาเป็นเอาตาย ความเป็นระบบ ระเบียบวินัย ซึ่งต่างกับชุดปัจจุบันมาก มีคนถามมาอีกว่า เป็นเพราะใคร? เคยรอซ เหรอ...หรือว่าความดื้อรั้นของเฟอร์เอง บ้างว่า 4-3-3 ไม่เหมาะกับแมนฯยูฯ ชุดนี้ เนื่องจากมิอาจหาปีก 2 ฝั่งที่สะเด่าได้ ถ้าให้รุดเป็นหน้าเป้า โรนัลโด้ ที่ลีลาเร่าร้อน ทั้งในสนามและนอกสนาม แต่ก็ยังไม่สามารถแสดงความเด็ดขาดและการเล่นเพื่อทีมมากเพียงพอและเอาแน่เอานอนไม่ได้ อีกทั้งสมาธิยังเป๋ง่ายๆ อีก หรือว่า ปาร์ค จีซุง มิดฟิลด์ไดนาโมแดนโสมจะสามารถมาทดแทนความทุ่มเทนี้ได้ แต่กระนั้นก็ยังคงไม่ได้รับความสนใจเนื่องจากเคยรอซ แกต้องการปั้นโรนัลโด้ มากกว่า ส่วน รูน ธรรมชาติไม่ใช่คนที่จะต้องแบกรับภาระวิ่งว่อนไปทั่วสนาม เมื่อศักยภาพไม่ถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ มัวแต่ไปพะวงในตำแหน่งการเล่นของคนอื่นและจะซื้อมายิงประตูทำไมกัน กอปรกับผู้เล่นเก๋าๆ หลายคนเริ่มโรยราลงไป คนแรกก็ลูกพี่คีนเลย ไม่มีแรง ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนด่าลูกทีมอย่างเดียวแล้ว สโคลส์ ก็ฟอร์มหลุดวงโคจรไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนการละคร ณ โรงละครแห่งความฝัน อีกด้วย กิ๊กส์ก็ไม่อาจลากเลื้อยไปยิงแสกหน้าได้เหมือนเก่า คนเก่ากำลังตาย คนใหม่กำลัง(ใจ)หมด...ได้แต่ถอนหายใจ....เฮ้อ..เธอ!! เป็นระยะ

ปัญหาวุ่นๆ ในแคมป์ผีแดงจึงเปรียบเสือนระเบิดเวลาที่ถึงเวลาประทุขึ้นมาแล้ว เชื่อว่า เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรโคตรมหามิลเลี่ยนแนร์คงไม่อยู่เฉยเป็นแน่ หลังจากระดมทุนเพื่อสร้างอาณาจักรทางธุรกิจแห่งนี้แล้วคงไม่อยากให้ทีมของตนต้องขาดทุนและตกต่ำไปถึงกลียุค ส่วนทางออกจะเป็นอย่างไรมันก็ 2 หน้า ไม่เปลี่ยนผู้ช่วยคนใหม่โดยการปลดเคยรอซ กลางอากาศ ขายคีนทิ้งเพราะปากมาก พฤติกรรมเป็นอริต่อเจ้านาย หรือเด้งเซอร์ อเล็กซ์ ทิ้งแล้วหาคนใหม่ ซึ่งนั่นทำให้การก้าวลงจากฐานะผู้จัดการทีมผู้คงกระพันในโค้งสุดท้ายดูไม่สวยหรูเท่าไรนัก

หากอะไรยังดูแย่ๆ อย่างนี้ต่อไป เร็วๆ นี้หรือไม่ปีหน้าบางทีเราอาจจะได้เห็นการโยกย้ายสายฟ้าแลบของสมาชิกรายใหม่ของทีมที่จะเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอีกคน....ในฐานะผู้จัดการทีม

KaMpU

ฟุตบอล ชีวิต มิตรภาพ