หากนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้ว และโพสว่า "คาเซมิโร่จะย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" คิดว่าจะมีใครเชื่อไหม?
แต่มันได้เกิดขึ้นจริงเรียบร้อยแล้ว
ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับเป็นปัญหาที่คาราคาซังของทีมปีศาจแดงมานานหลายปี ในขณะที่ คาเซมิโร่ ก็ถูกยกย่องให้เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน การันตีด้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยติดในยุค ซีเนดีน ซีดาน และแชมป์บิ๊กเอียร์ทีมล่าสุดในยุค คาร์โล อันเชล็อตติ จึงอาจกล่าวได้ว่านี่คือดีลในฝันของเหล่าแฟนผีเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปหลังความพ่ายแพ้ในนัดเปิดฤดูกาล ปีศาจแดงขาดแคลนศูนย์หน้าที่มีความคมในการจบสกอร์ ทำให้เกิดดีลสุดบ้าอย่าง มาร์โก อาร์เนาโตวิช บ้าขนาดนี้ที่ว่าดีลนี้ไม่ได้มีผลพวงมาจากผลงานการยิงประตูของหัวหอกทีมชาติออสเตรีย แต่เป็นเพราะเจ้าตัวเคยร่วมงานกับ เทน ฮาก มาก่อนเมื่อคราวที่ทั้งคู่เริ่มต้นสายงานของตัวเองในวงการลูกหนัง บ้าถึงขนาดที่มีการยื่นข้อเสนอไปแล้วด้วย ดีที่โบโลญญาเล่นตัว จนส่งผลให้ดีลล่มไปในที่สุด
อีกปัญหาในตำแหน่งกองกลางนั้นยูไนเต็ดหันไปจีบ อาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติฝรั่งเศษที่ยูเวนตุสต้องการขายเป็นที่สุด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเมื่อสถิติในฤดูกาลก่อนนั้นอ่อนด้อยกว่าคู่หูคู่ฮาอย่างแม็ค-เฟร็ดเสียอีก โดยดีลนี้ทั้งสองสโมสรถึงขั้นบรรลุข้อตกลงเรื่องสินสอดไปแล้วเรียบร้อย ก็ต้องขอบคุณคุณแม่ซึ่งควบตำแหน่งเอเย่นต์ส่วนตัวที่หน้าเงินอย่างเปิดเผยจนสโมสรเบือนหน้าหนีแล้วล้มดีลไปในที่สุด
จะเห็นได้ว่าดีลทั้งสองนั้นเป็น Panic Buy ระดับบางเบาที่ปีศาจแดงตอบสนองต่ออาการตื่นตระหนกในผลงานนัดแรก อันมีเรื่องของค่าตัวแสนถูกเป็นตัวตั้ง โดยไม่ได้พินิจเลยว่าการแก้ผ้าเอาหน้ารอดนี้จะกลายเป็นการแก้ผ้าให้อับอายเสียมากกว่า
เมื่อโหมด Panic Buy เบอร์ต่ำใช้ไม่ได้ผล แถมยังมาพ่ายศึกอย่างหมดสภาพในนัดที่ 2 จนกระเด็นไปจมอยู่ก้นตารางคะแนน ส่งผลให้ทีมงานซื้อขายจำเป็นต้องตัดสินใจเดินหน้าขั้นสุดทันที
และแล้วนักเตะชั้นนำมากหน้าหลายตาก็ถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เจา เฟลิกซ์, โอบาเมยอง, อัลวาโร่ โมราต้า หรือ มาเธอุส คุนญ่า แถมยังเป็นการรายงานจากผู้สื่อข่าวระดับความน่าเชื่อถือสูงอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าความคลุ้มคลั่งของทีมงานซื้อขายนั้นเป็นของจริง แต่ความจริงที่สุดคงหนีไม่พ้นการยอมรับว่า "ปีศาจแดงในสภาพนี้นักเตะคนไหนจะอยากย้ายมา" จึงไม่แปลกอะไรที่ข่าวการปฏิเสธจะตามมาอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ในรายของคาเซมิโร่เอง ตอนแรกจะมีกี่สักคนที่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก บรรดาแฟนผีเองก็ต่างคิดว่าดีลนี้คงเป็นได้แค่การใฝ่สูงเหมือนนักเตะรายอื่นๆ เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะสามารถเด็ดดอกฟ้าได้สำเร็จจริงๆ
ว่ากันว่าดีลนี้จุดเริ่มต้นมาจากเอเย่นต์ของคาเซมิโร่เองที่สอบถามความต้องการไปยังปีศาจแดง หลังจากกองกลางตัวรับเลือดแซมบ้าลงสนามฐานะตัวสำรองไป 7 นาทีในเกมเปิดศึกลาลีกา จนนำไปสู่ข้อเสนอที่วิน-วินกันทุกฝ่าย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้นักเตะระดับท็อปมาแก้ปัญหาในตำแหน่งที่ต้องการ
เรอัล มาดริด ได้เงินครึ่งร้อยล้านจากนักเตะอาวุโสที่เหลือสัญญาเพียงปีเดียว แถมยังเตรียมนักเตะทดแทนไว้อยู่แล้วทั้งชูอาเมนี่ และมากาวิงก้า
คาเซมิโร่ ได้ความมั่นคงมั่งคั่งระยะยาวในหน้าที่การงาน ได้เผชิญความท้าทายใหม่หลังกวาดแชมป์กับราชันชุดขาวจนหมดแล้ว และที่สำคัญคือได้ฐานเงินเดือนที่พุ่งสูงขึ้นถึงสองเท่า
เฟร็ด ได้คู่หูที่พร้อมจะนำเขากลับสู่ร่างทอง และสร้างสมดุลแห่งพลัง โดยยามที่ทั้งสองยืนคู่กันภายใต้ธงชาติบราซิลสามารถเก็บชัยได้ถึง 18 ครั้ง และแพ้ไปเพียงนัดเดียว
แม้จะมีเสียงครหาว่าดีลนี้เป็นความคาดหวังของสโมสรที่จะใช้ลดกระแสโจมตีผู้บริหารจากเหล่าแฟนบอล ซึ่งก็ต้องยอมรับตามจริงว่านี่คือการแก้ปัญหาเชิงฟุตบอลที่ดีของปีศาจแดงในรอบหลายปี แต่ผลประโยชน์สูงสุดก็ตกอยู่กับทีมของเอริค เทน ฮากอย่างไม่ต้องสงสัย
การย้ายมาของคาเซมิโร่ ถือเป็นการยกระดับคุณภาพแผงมิดฟิลด์ปีศาจแดงให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแท้จริง และจะช่วยให้ยูไนเต็ดก้าวข้ามคุณภาพระดับ "แม็ค-เฟร็ด" ไปได้เสียที
แม้อายุอานามจะก้าวเข้าสู่หลัก 3 ไปแล้ว แต่คาเซมิโร่ก็ยังคงเป็นนักเตะที่มีความครบเครื่องทั้งบู๊และบุ๋นแบบ All in 1
นอกจากผลงานอันโดดเด่นในสายแทงค์ ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะการดวลทั้งภาคพื้นและกลางอากาศ การเข้าสกัดบอล การดักตัดบอลและการบล็อกลูกยิงด้วยเปอร์เซนต์ความสำเร็จที่สูง คาเซมิโร่ยังสามารถแสดงบทบาทตัวโฮลดิ้งได้อย่างไม่ขัดเขิน ทั้งการคุมจังหวะบอล การผ่านบอลสั้น-ยาว และการเลี้ยงผ่านคู่แข่ง แถมยังรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวาได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นสิ่งที่ปีศาจแดงต้องการแต่ไม่เคยได้รับจากมิดฟิลด์ที่มีอยู่ภายในทีม
ทั้งนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับการเปิดโหมด Panic Buy ขั้นสูงสุดของสโมสร หรือจะบอกว่าใช้ตำแหน่งบ๊วยแลกมาก็คงไม่ผิดนัก
