ในรูปของชุดแข่งขันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยสร้างสรรค์มา
ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงสนามในชุดแข่งขันทีมเหย้าแบบใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีแดง ขาว และดำซึ่งเป็นสีแบบดั้งเดิมของสโมสร เติมแต่งด้วยรูปแบบอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากประวัติศาสตร์ของสโมสร
ช่วงตัวของเสื้อแข่งขันชุดเหย้าเป็นสีแดงแบบดั้งเดิม ปกเสื้อสีขาวตัดเย็บอย่างปราณีต มีแถบสีดำตรงกลาง ซึ่งนำรูปแบบมาจากผ้าพันคอลายขวางของสโมสร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเสื้อแข่งขันของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นตำนานในอดีต ได้แก่เสื้อแข่งขันในปี 1977 และ 1985 ซึ่งเป็นสมัยที่ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง และชุดแข่งขันที่คว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปี 2008 และบาเคลย์ พรีเมียร์ ลีก
สำหรับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ้าพันคอลายขวางที่ใช้ในอดีตเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนจดจำได้ ซึ่งทั้งแฟนบอลและ นักเตะต่างใช้ชูในโอกาสของการเฉลิมฉลองและรำลึก
ข้างในตัวเสื้อด้านหน้า บริเวณหลังตราประจำสโมสร มีตัวอักษรคำว่า "Relentless" มีความหมายว่า "ไม่ยอมแพ้" ที่สะท้อนการไขว่คว้าความสำเร็จของสโมสรได้เป็นอย่างดี และขับเคลื่อนทีมไปสู่การคว้าถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรฟุตบอล
ด้านหลังของเสื้อบริเวณใต้คอเสื้อมีรูป ปีศาจ เล็กๆ ซึ่งนำมาจากตราประจำสโมสร ในขณะที่ด้านในบริเวณคอของปกเสื้อมีคำว่า "Manchester United"
ในขณะที่การออกแบบเสื้อสื่อถึงประวัติศาสตร์และประเพณีของสโมสร ชุดแข่งขันชุดใหม่นี้ยังผลิตขึ้นจาก โพลีเอสเตอร์รีไซเคิลของไนกี้ซึ่งเป็นวัสดุที่พัฒนาขึ้นใหม่ และนับเป็นครั้งแรกที่นำวัสดุนี้มาใช้กับทั้งเสื้อและกางเกงอีกด้วย
ชุดที่ครบถ้วนแต่ละชุดจะต้องใช้ขวดน้ำพลาสติกที่นำมารีไซเคิลเป็นจำนวน 13 ขวดในการผลิต ซึ่งกระบวนการผลิตเช่นนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับการผลิตโพลีเอสเตอร์แบบเดิมๆ และยังเป็นการช่วยกู้ขวดน้ำพลาสติกเกือบ 100 ล้านขวดจากการถูกนำไปใช้เป็นขยะถมที่
กางเกงของชุดแข่งขันเหย้าในฤดูกาลนี้เป็นสีขาวทั้งหมด ยกเว้นป้ายเล็กๆ ที่ติดตรงบริเวณชายกางเกง ที่ยังคงมีแถบสีดำ และขาว ซึ่งนำมาจากลายของผ้าพันคอสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถุงเท้าสำหรับชุดเหย้าใหม่เป็นสีดำ มีรูป ปีศาจ เล็กๆ สีขาว ที่นำมาจากตราประจำสโมสร บนบริเวณน่อง และมีแถบสีขาวและแดงตรงส่วนบนสุด
ชุดแข่งที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษชุดนี้ (เบากว่าชุดแบบเดิม 13%) ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายของผู้เล่นขณะอยู่ในสนามได้เป็นอย่างดี โดยเทคโนโลยีไดร-ฟิตของไนกี้จะทำให้พวกเขารู้สึกแห้งและเย็นสบายตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีนี้จะช่วยดูดซับเหงื่อออกจากตัวผู้เล่นด้วยวัสดุที่ให้เหงื่อระเหยออกไปได้ง่าย
การควบคุมอุณหภูมิยังได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยช่องระบายอากาศใต้แขนตลอดลงไปถึงขอบเอว โดยประกอบด้วยรูเล็กๆ จำนวนร้อยๆ รูซึ่งเจาะด้วยเลเซอร์เพื่อช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดีขึ้น จึงทำให้ผู้เล่นรู้สึกแห้งและเย็นสบายตัว
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ตราสโมสรบริเวณด้านหน้าของเสื้อเป็นตราที่ติดโดยการรีดด้วยความร้อน จึงยิ่งช่วยลดน้ำหนักของเสื้อลงและยังช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้สามารถระบายอากาศได้อีกด้วย
เสื้อแบบใหม่สำหรับฤดูกาลนี้ยังได้รับการออกแบบใหม่ให้เข้ารูปตามหลักอากาศพลศาสตร์ จึงดูกระชับและ ปราดเปรียวยิ่งขึ้น พร้อมให้ความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม 17% เมื่อเทียบกับเสื้อแบบที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดใช้เมื่อสองปีก่อน ขอบต่างๆ เชื่อมติดกันด้วยการผสานเนื้อผ้า จึงดูเรียบสนิทกว่าเดิมและยังช่วยลดอาการระคายเคืองจากการเสียดสีอีกด้วย
และเพื่อเสริมฐานะให้กับชุดแข่งใหม่ชุดนี้ ไนกี้ยังได้เปิดตัวคอลเลคชั่นชุดฝึกซ้อมและเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ผู้เล่นและแฟนๆ ของทีมใช้สวมได้ทั้งในและนอกสนาม