เสื้อเยือนตัวใหม่ของทีมชาติอังกฤษจากไนกี้ช่วยให้ย้อนรำลึกไปถึงยุครุ่งเรืองของทีม ความภาคภูมิใจของชาติ และสไตล์การออกแบบที่โดดเด่น เสื้อแข่งตัวนี้เป็นการกลับมาของเสื้อเยือนสีแดงอันเป็นที่นิยมในวาระสำคัญต่างๆ ของทีมชาติอังกฤษ การคว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 1951 ทีมชาติอังกฤษสวมใส่เสื้อสีแดงในวันที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกที่เวมบลีย์ในปี 1966 ด้วย
เสื้อเยือนตัวนี้เป็นการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค โดยสีแดงทั่วทั้งตัวนั้นเป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจและอารมณ์ร่วมของแฟนบอลอังกฤษ เสื้อตัวนี้ยังใช้ปกคอเสื้อในแบบดั้งเดิมของอังกฤษที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย ที่รอยผ่าตรงคอเสื้อมีกระดุม 2 เม็ด เม็ดล่างเป็นสีแดง ขณะที่เม็ดบนเป็นสีขาว โดยเย็บด้วยด้ายสีแดงไขว้กันเป็นการสื่อถึงธงเซนต์ จอร์จ
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 150 ปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ โลโก้สิงโต 3 ตัวอันเป็นเอกลักษณ์ถูกปักด้วยสีทอง ดาวสีทองด้านบนเป็นการสื่อถึงการคว้าแชมป์โลกของทีมชาติอังกฤษในปี 1966 ริบบิ้นสีทองด้านล่างนั้นมีการใส่ตัวอักษรว่า "150 years" รวมถึงปี 1863 และ 2013 กางเกงชุดเยือนนั้นจะเป็นสีขาวที่มีโลโก้เป็นสีทอง ขณะที่ถุงเท้าจะใช้สีแดงที่มีแถบสีขาวเล็กๆ อยู่ด้านบน
เสื้อแข่งตัวนี้มาจากการออกแบบตามสไตล์ของไนกี้ ทำด้วยความประณีต และภาคภูมิใจด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสมรรถภาพให้กับผู้เล่น เสื้อตัวนี้ทำจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ที่นำกลับมารีไซเคิ่ล ตามแนวทางของไนกี้ที่ต้องการผลิตชุดแข่งที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเสื้อและกางเกงของชุดแข่งแต่ละชุดนั้นจะมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิ่ล 13 ขวด
สำหรับกระบวนการผลิตนั้น ขวดพลาสติกทั้งหมดจะถูกนำมาบดเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็นำมาหลอมจนออกมาเป็นเส้นด้ายที่สามารถนำมาทอเป็นผ้าได้ นับเป็นการลดพลังงานการผลิตถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตโพลีเอสเตอร์แบบทั่วไป นับตั้งแต่ปี 2010 ไนกี้ได้เปลี่ยนขวดพลาสติกมาใช้เป็นโพลีเอสเตอร์แบบรีไซเคิ่ลมากกว่า 1.1 พันล้านขวดเลยทีเดียว
เสื้อแข่งตัวนี้มีน้ำหนักแค่ 150 กรัมเท่านั้น ถือว่าเบาลงจากเสื้อแข่งรุ่นก่อนของไนกี้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการตัดเย็บที่ทำให้เสื้อมีความแข็งแรงขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยรูปแบบการตัดเย็บที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น เนื้อผ้ายังคงใช้เทคโนโลยี Dri-FIT เพื่อระบายเหงื่อจากร่างกาย ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเย็นสบายและตัวแห้งอยู่ตลอด
ในพื้นที่ระบายอากาศ มีการใช้เลเซอร์เจาะเป็นรูเล็กๆ บริเวณใต้แขนเสื้อของทั้ง 2 ด้าน เช่นเดียวกับบริเวณแถบเอวของกางเกงด้วย เพื่อเสริมสร้างความเย็นสบาย ผืนตาข่ายที่ด้านหลังก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศด้วยเช่นกัน
เพื่อการเสริมสร้างคุณสมบัติสูงสุด ไนกี้ยังได้ใช้เทคโนโลยี 3D สแกนร่างกายของนักเตะชั้นนำของโลกเพื่อทำเสื้อให้เข้ารูปมากที่สุด เสื้อตัวนี้ยังมีการติด T-bars เพื่อเพิ่มความคงทนในบริเวณที่การตัดเย็บมาบรรจบกันอีกด้วย การเชื่อมเนื้อผ้าที่ด้านในนั้นช่วยให้มันเป็นชุดแข่งที่มีความพิเศษมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่อีกด้วย