
แม้จะออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่แล้ว แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงมีอาการเมาหมัดไม่เลิก เมื่อเก็บได้เพียงแต้มเดียวจาก 2 เกมแรก รั้งอันดับ 16 ของตาราง ไม่กระเตื้องขึ้นจากซีซั่นก่อนเลยสักนิด ทั้งที่สโมสรอัดฉีดเงินยกเครื่องทีมใหม่ไปกว่า 200 ล้านยูโร ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะที่ถูกโจมตีมากที่สุดกลับเป็น บรูโน่ เฟอร์นานเดส กัปตันผู้แบกทีมมาหลายปี
นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพปีศาจแดง บรูโน่ก็รับบทเดอะแบกแนวรุกของทีมมาทุกปี โดยมีสถิติกองกลางที่มีส่วนร่วมในการทำประตูมากที่สุดทั้ง 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเป็นเครื่องการันตี จากผลงานทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมลีกรวมกันถึง 113 ลูก นอกจากนั้นยังเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสทำประตูได้มากที่สุดของพรีเมียร์ลีกตลอด 3 ปีหลังมานี้ หรือแม้แต่ช่วงที่ผลงานทีมตกต่ำเมื่อปีที่แล้ว กัปตันหน้าหนวดก็ยังคงรักษามาตรฐานแบกทีมหลังแอ่นไว้ได้ จนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทั้งจากการโหวตของแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีม แต่ทุกอย่างค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม
บรูโน่อันตรายที่สุดภายใต้แผน 4-3-3 เมื่อสวมบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกคอยแทงบอลให้ศูนย์หน้าและปีกทำประตู รวมถึงสอดขึ้นมายิงด้วยตัวเอง แต่การมาของอโมริมพร้อมระบบ 3-4-2-1 นั้นใช้ผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 10 ถึง 2 คน ทำให้บรูโน่ต้องปรับตัวขนานใหญ่ จากเป็นคนแจกจ่ายบอลสร้างสรรเกม เขาต้องลากเลื้อยฝ่าแนวรับคู่แข่งมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่บรูโน่ทำได้ดีสักเท่าไหร่ เราจึงเห็นโค้ชเลือกใช้ผู้เล่นแนวปีกมาสวมตำแหน่งแทน แล้วดร็อปบรูโน่มายืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางจนชินตา โดยท้ายที่สุดก็เป็นอย่างที่รู้กัน ประสิทธิภาพเกมบุกของปีศาจแดงเมื่อปีกลายเข้าขั้นหายนะ
อโมริมรู้ถึงปัญหาแนวรุกดีจึงสั่งนำเข้าผู้เล่นเบอร์ 10 ตัวท็อปของลีกทีเดียวถึง 2 คน การลงทุนมหาศาลกับ มาเตอุส คุนญ่า และ ไบรอัน เอ็มบูโม่ สื่อสารโดยตรงกับบรูโน่อย่างชัดเจนว่าต่อไปนี้เขาต้องโยกมาประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางหากยังต้องการลงสนามเป็นกำลังหลักของทีมปีศาจแดงอยู่
ถึงจะมีความขยัน ทุ่มเทเต็มร้อย พอจะเล่นในบทบาทใหม่นี้ได้ แต่บรูโน่ก็ไม่ได้ถูกบ่มเพาะมาให้เป็นมิดฟิลด์สายพลังงานที่เคลื่อนรับบอลแก้เพลส หรือวิ่งขึ้นสุดลงสุดตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยืนตำแหน่งหน้าแนวรับต้องมีสติ คอยมองรอบตัวอยู่ตลอด ซึ่งจะเหม่อหรือเสียสมาธิไม่ได้ ซึ่งผิดกับพฤติกรรมปกติของกัปตันชาวโปรตุเกสที่มักจะหลุดโฟกัสไปกับการบ่นเพื่อนร่วมทีมหรือกรรมการ นอกจากนั้นบรูโน่ยังไม่ใช่คนที่ละเอียดในการครอบครองบอลมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะจับบอลยาว หรือถูกดักตัดแย่งบอลบ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อเขายืนต่ำใกล้ปากประตูตัวเอง การเสียบอลก็เท่ากับเปิดโอกาสให้คู่แข่งสวนกลับล่อเป้าในทันที ดังนั้นการเล่นในตำแหน่งนี้จึงบั่นทอนคุณภาพที่เคยทำได้แทบหมดสิ้น
ในนัดล่าสุดบรูโน่ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงถึงความเหมาะสมกับภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเขาเล่นผิดพลาดหลายต่อหลายหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะเสียสมาธิปล่อยให้ตัวประกบสอดขึ้นไปยิงประตูตีเสมอโล่งๆ แถมฟอร์มไม่ดีแต่ก็ยังได้อยู่บนสนามเต็มเวลา จนเหล่ากูรูลูกหนังพากันตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะสถานะกัปตันทีมของเขาหรือไม่ ถึงทำให้เขาไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก ทั้งที่ยังมี ค็อบบี้ ไมนู ที่พร้อมลงมาสร้างความแตกต่าง
ยิ่งเมื่อมีข่าวว่ามีความพยายามอีกครั้งจากลีกซาอุในการคว้าตัวบรูโน่ไปยังตะวันออกกลาง เหล่าแฟนบอลที่เห็นดีเห็นงามด้วยก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากเม็ดเงินมหาศาลจากดีลนี้สามารถเปลี่ยนเป็นนักเตะตัวท็อปตรงตามตำแหน่งอย่าง คาร์ลอส บาเลบา ได้ทันที ซึ่งถูกมองว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพแดนกลางของปีศาจแดงให้ขึ้นไปทัดเทียมคู่แข่งกลุ่มลุ้นแชมป์ได้เลย
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอโมริมว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร หากเลือกปล่อยบรูโน่ออกไปก็ยังพอมีเวลาเดินดีลบาเลบา ที่ดูท่าจะมีใจให้ทีมปีศาจแดงไม่น้อย หรือหากเห็นว่าเพิ่งผ่านมาไม่กี่เกมยังควรให้โอกาสกัปตันอยู่ ก็อาจต้องเน้นกับการเคี่ยวกรำช่วงซ้อมอย่างหนักเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งออกมาสมบูรณ์แบบ เหมือนอย่างที่ ไรอัน กิ๊กซ์ ประสบความสำเร็จในช่วงบั้นปลายอาชีพ
ไม่ว่าอโมริมจะเลือกทางไหน เหล่าแฟนคลับก็คงได้แต่เอาใจช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างที่ตั้งใจ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าโค้ชภายในโรงละครแห่งความฝันอีกครั้ง ซึ่งนั้นย่อมกระทบต่อเป้าหมายการกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของลีกอังกฤษโดยเร็วอย่างที่ทุกคนต้องการ