ตอน : นายทุนลูกหนัง ยูไนเต็ด

นายทุนมะกันของยูไนเต็ด ที่แฟนยูไนเต็ด ต่างพากันร้องยี้ เมื่อเข้ามารับเซ้งกิจการสโมสรใหม่ๆ
นี่ก็ใกล้จวนเจียนจะเข้าสู่ในช่วงเวลาไคลแม็กซ์ของฤดูกาลแล้ว ก็เริ่มมีท่าทีชัดเจนแล้วว่า ทีมไหนในพรีเมียร์ลีก มีโอกาสคว้าแชมป์ ทีมไหนมีโอกาสไปท่องแข้งสังเวียน ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก และทีมไหนมีทีท่าว่าจะลงไปโชว์ลวดลายในศึกแชมป์เปี้ยนชิพ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เบื้องหลังความสำเร็จอย่างลุล่วงที่ผ่านมาของทีมยูไนเต็ด นอกจากจะมี เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ที่คอยปลุกปั้นแข้งเด็กผีเอย รวมไปถึง เดวิด กิลล์ ที่คอยจัดการด้านธุรกิจทุกอย่าง และสุดท้าย ต้องไม่ลืมว่า เรามีนายทุนใจดี อย่าง มัลคอล์ม เกลเซอร์ รวมอยู่ด้วย!
ในช่วงแรก ที่มัลคอล์ม เกลเซอร์ ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ กิจการใหม่ๆ แฟนผีต่างๆ พากันร้องยี้ และถึงขนาดที่ว่า ลงทุนและลงขันเองจนเกิดกลายมาเ้ป็นสโมสรแห่งใหม่ที่ชื่อว่า FC United นั่นเอง ด้วยเหตุปัจจัยที่ว่า เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมในเรื่องแง่ของเกมธุรกิจ และไม่ได้รักสโมสรอย่างจริงจัง พร้อมกับขูดเลือดขูดเนื้อแฟนบอล ด้วยการเพิ่มราคาค่าตั๋วเข้าชม รวมไปถึงการมีข่าว
ของทีมติดหนี้สินพะรุงพะรังรวมอยู่ด้วย

ป๊ะป๋า คงมีความสุขที่ได้ร่วมงานกับ ซีอีโอ มืออาชีพ อย่างเดวิด กิลล์ มากกว่า เหม่งระยำ เคนยอน แน่นอน
เมื่อเพื่อนบ้านแต่ละสารทิศ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี หรือ ลิเวอร์พูล นั้น คงอดรู้สึกขำก๊าก ไม่ได้ เมื่อได้นายทุนมะกันมาเป็นเจ้าของ และหลายฝ่ายก็เชื่อว่า ยูไนเต็ด กำลังจะตกลงไปในทิศทางที่ตกต่ำ แต่ขอโทษเหอะ เผอิญ ลูกผู้ชายที่ชื่อว่า อเล็กซานเดอร์ แชปแมน เฟอร์กูสัน ยังอยู่ทั้งคน รวมไปถึงความมุ่งมั่นของในตัวนักเตะเอง ที่ไม่สามารถจะยอมเป็นทีมที่อยู่ใต้ร่มเงาของใครได้ หลังจากเป็นทีมที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดในอังกฤษ อยู่ที่ 8 สมัยในเวลาขณะนั้น
แฟนๆ ของเชลซีอาจจะรู้สึกปลาบปลื้มในพระคุณของ โรมัน อับราโมวิซ ที่สามารถพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แต่ต้องไม่ลืมว่า มันมาจากผลงานของ โฆเซ่ มูรินโญ่ หาใช่ โรมันไม่ เพราะตอนแรก โรมันเข้ามาเทคโอเวอร์ นั้น มีเคลาดิโอ รานิเอรี่ เป็นกุนซืออยู่ แต่ทำผลงานเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้มาก จนกระทั่ง กุนซือหน้าบอกบุญไม่รับ ได้ย่างก้าวเข้ามาในถื่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทุกอย่างก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ 2 สมัยซ้อน (แบบไม่มีสไตล์) นั่นเอง

เสี่ยหมี คือประธานสโมสรในฝันของแฟนๆ ยูไนเต็ด เมื่อเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมเชลซีใหม่ๆ แต่ตอนนี้คงไม่แล้วล่ะ
แต่ทุกอย่างดูเหมือนเริ่มจะเปลี่ยนไป เพราะด้วยเลือดนักสู้ของป๋าแพนด้าและลูกกรอกคะนองทั้งหลาย รวมไปถึง เปิดคลังงบ คว้าตัว ไมเคิ่ล คาร์ริค มาด้วยค่าตัว 18.6 ล้านปอนด์ จนมาเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปได้ (อย่างมีสไตล์) ทั้งๆ ที่เชลซี ทุ่มงบประมาณเกือบๆ 100 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัวยอดศูนย์หน้าที่มีดีกรีระดับโลก อย่าง อังเดร เชฟเชนโก้ , มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติเยอรมัน มิชาเอล บัลลัค และ แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายระดับพระกาฬของทีมชาติอังกฤษ
นั่นเป็นเพราะว่า ในช่วงระยะหลัง มูรินโญ่ ไม่พอใจกับการซื้อตัวของ โรมัน อับราโมวิซ ที่ลงทุนจ่ายเจียดเงินกระเป๋าด้วยตัวเอง ในมูลค่ามหาศาล และนักเตะบางคนก็ทำฟอร์มได้ไม่เข้ากับทีมโดยรวมนัก โดยเฉพาะอังเดร เชฟเชนโก้ ที่มูรินโญ่ ไม่ชอบมากที่สุด และส่งผลทำให้ฟอร์มของดาวยิงเลือดยูเครน ต้องมีอันตกหล่นลงไปและรวมไปถึง นักเตะ 2 คนรายหลังที่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้สมกับราคาค่าตัวที่ย้ายมาสักนิดเลย จนทำให้ แชมป์พรีเมียร์ลีกต้องตกกระเด็นไปยังยูไนเต็ด ถึงแม้ว่าจะมีเอฟ เอ คัพ เป็นรางวัลปลอบใจ แต่มันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเสี่ยหมีเป็นแน่แท้

ทอม ฮิคส์ และจอร์จ ยิลเลตต์ อาจจะทำให้แฟนๆ หงส์แฮปปี้ ตอนแรกๆ แต่หลังๆ เริ่มไม่มีความสุขหลังไปก้าวก่าย ราฟา
มาทางด้านลิเวอร์พูลกันบ้าง หลังจากที่ช็อปปิ้ง ซื้อนักเตะมาเป็นโหลๆ อย่างกับไปซื้อของที่ เทสโก้ โลตัส ยังไงอย่างนั้น และคว้าตัวยอดศูนย์หน้าอย่าง เฟอร์นันโด ตอร์เรส เข้ามาร่วมทีมในค่าตัวระดับพันล้าน ซึ่งทำให้แฟนๆ เดอะค็อป สามารถฝันหวานได้ว่า ตัวเองกำลังจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก หลังจากที่ต้องฝืนอดทนกล้ำกลืนเป็นร่มเงาของความสำเร็จของ ยูไนเต็ดมาโดยตลอด
แต่ในเมื่อนักเตะที่ซื้อช็อปปิ้งเข้ามาเยอะจนสามารถไปตั้งทีมใหม่ได้เลย ก็เลยทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ เกิดอาการ รักพี่ เสียดายน้อง ทำให้ต้องหมุนเวียนนักเตะกันจนเป็นแฟชั่น และสามารถกล้าๆ ที่จะดร็อป สตีเว่น เจอร์ราร์ด และเฟอร์นันโด ตอร์เรสได้ เพื่อให้เข้ากับนโยบายของทีมที่เรียกว่า "โรเตชั่น" ซึ่งส่งผลทำให้เกิดผลเสีย มากกว่า ผลดี เพราะนักเตะเล่นกันไม่ค่อยเข้าระบบ ทั้งสายเลือดเก่าและสายเลือดใหม่ จนทีมปั่นป่วนและทำได้เพียงแค่เสมอ 4 นัดรวม ก่อนที่จะไปล้างแค้นทีมระดับลีกวัน อย่าง ลูตัน ทาว์น คาถิ่นแอนฟิลด์ หลังจากที่ ลูตัน ทาว์น ไปลูบคมทีมหงส์แดง ในบ้านของตัวเอง แต่เสมอในทีมระดับเดียวกัน ถึง 3 นัดติด และเสมอลูตัน ทาวน์ในบ้านลูตัน นี่มันยังไงกันเนี่ย?

ถ้าถ้วยพวกนี้ ทั้งหมดตกอยู่ในอ้อมกอดของยูไนเต็ดในปีนี้ แฟนๆ จะยอมยกโทษให้เกลเซอร์ได้หรือยัง?
จนทำให้เกิดกระแสที่ว่า เจ้าของทีมอย่าง ทอม ฮิคส์ และจอร์จ ยิลเลตต์ อาจจะขายสโมสรลิเวอร์พูลทิ้ง หรือไม่ก็จัดการไล่ผู้จัดการทีมชาวสแปนิซ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพมาในปี 2005 อย่าง ราฟาเอล เบนิเตซออกได้ หลังแอบไปติดต่อกับ เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศไปรับหน้าที่เป็นนายใหญ่ ที่ โอลิมปิค สเตเดี้ยม ของบาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซีซั่นหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ย้อนกลับมาที่ยูไนเต็ดบ้าง มัลคอล์ม เกลเซอร์ อาจจะไม่ได้เป็นที่ชอบหน้าถือตาของแฟนบอลยูไนเต็ดสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบกับเสี่ยหมีของเชลซี และสองนายทุนมะกัน ของลิเวอร์พูลแล้ว เกลเซอร์ ไม่เคยไปก้าวก่ายการทำงานของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมไปถึง ลอบแทงข้างหลัง ด้วยการเตรียมหาผู้จัดการทีมใหม่ ตอนที่ทีมมีผลงานย่ำแย่ด้วย มิหนำซ้ำ ล่าสุดสามารถสร้างชื่อด้วยการเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลก แซงหน้ายอดทีมเจ้าสัวแห่งแดนกระทิงดุ อย่าง รีล มาดริด เสียอีก และการช็อปปิ้ง 4 นักเตะดังเข้าร่วมทีม อย่าง นานี่ , อันแดร์สัน , โอเว่น ฮากรีฟส์ และคาร์ลอส เตเวซ จะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีเงินของ มัลคอล์ม เกลเซอร์ ให้ป๋าของเรามาช็อปปิ้ง
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้ายูไนเต็ดสามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ แฟนๆ ของยูไนเต็ดที่เคยกล่าวหาการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรแห่งนี้ของ มัลคอล์ม เกลเซอร์ นี้ จะยอมยกโทษให้เขาได้หรือยัง?
ManSmith