ตำแหน่ง กองหลัง, ฮาล์ฟแบ็ค
วันเกิด 1 ตุลาคม 1936 (87 ปี)
สถานที่เกิด วอเชสเตอร์เชียร์, อังกฤษ
ส่วนสูง 180
ทีมชาติ อังกฤษ
เข้าร่วมทีม 1 กรกฏาคม 1952
เซอร์ แมตต์ บัสบี้ เคยบอกเอาไว้ว่า ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในสหราชอาณาจักร หรือบางทีอาจจะในโลกเลยด้วยซ้ำ น่าเสียดายที่โศกนาฏกรรมที่มิวนิคต้องมาพรากชีวิตเขาไปด้วยวัยเพียง 21 ปี (21 กุมภาพันธ์ 1958) นั่นทำให้ไม่เคยมีใครได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของเขาหลังจากนั้นอีกเลย
เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง จ่ายบอลได้อย่างยอดเยี่ยม และยิงด้วยความหนักหน่วง เอ็ดเวิร์ดสเป็นคนที่สามารถควบคุมเกมได้ด้วยตัวของเขาเอง ความสามารถอันโดดเด่นของเขานั้นเป็นที่โจษจันกันไปทั่วประเทศตั้งแต่อายุได้เพียง 11 ปี ตอนที่เล่นให้กับทีมนักเรียนดัดลี่ย์ มีหลายทีมให้ความสนใจเขาทั้งวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, แอสตัน วิลล่า, เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน และเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในช่วงนั้นครูใหญ่ของโรงเรียนถึงกับเอ่ยปากชมเขาเอาไว้ว่า "ผมไม่เคยเห็นเด็กอายุ 11 คนไหนเลยที่ผมแน่ใจว่าวันข้างหน้าเขาจะได้เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ"
แม้ว่าจะได้รับการทาบทามจากหลายทีมในแถบมิดแลนด์ส โดยวูล์ฟสถือเป็นตัวเต็งที่จะได้เขาไป แต่ดันแคนก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ได้เข้าพบกับแมตต์ บัสบี้ แบบเป็นการส่วนตัวเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 1952 บัสบี้เคยรำลึกถึงช่วงนั้นว่าเอ็ดเวิร์ดสเคยบอกว่า "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อที่จะได้เล่นให้กับพวกคุณเลย"
ด้วยลักษณะทางกายภาพในตอนนั้นทำให้เอ็ดเวิร์ดสในวัยหนุ่มได้รับฉายาว่า แมนบอย และเขาก็ประเดิมสนามในเวทีฟุตบอล ลีก ด้วยอายุเพียงแค่ 16 ปี 185 วันเท่านั้นในวันที่ 4 เมษายน 1953 ในเกมที่พบกับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ จากนั้นอีก 8 เดือนต่อมาเอ็ดเวิร์ดสก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในวันเกิดอายุครบ 17 ปี ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกของทีมชุดฤดูกาล 1953/54 อย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เขาจะยืนเป็นแบ็คซ้าย แต่ที่จริงแล้วเขาสามารถทำผลงานได้ดีในการลงเล่นทุกตำแหน่งเลย
ในฐานะนักเตะ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส ไม่เคยลงเล่นโดยไม่ใส่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ทัศนคติในสนามแข่งของเขานั้นสุดยอด และก็เป็นคนที่ได้วางแผนชีวิตเอาไว้ด้วย ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า "มันดีที่ได้รับเสียงเชียร์ แต่คุณจะไม่ได้รับเสียงเชียร์เหล่านั้นไปตลอดชีวิตหรอก มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่เมื่อสิ้นสุดการได้รับเสียงเชียร์ในวงการฟุตบอล ทุกๆ คนจะลืมคุณได้อย่างง่ายดายมาก และในอนาคตผมก็ไม่ต้องการกลายเป็นคนแก่ๆ คอยร้องขอตั๋วฟรีเข้าไปดูบอลในสนาม"
นอกจากนี้แล้วเขายังถือเป็นนักเตะคนแรกเลยที่มีสถานะเป็นของตัวเอง เขาได้รับสปอนเซอร์จากเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย เขายังได้เขียนหนังสือของเขาเองด้วย มันถูกตีพิมพ์ก่อนเขาเสียชีวิตได้ไม่นาน โดยมีชื่อว่า Tackle Soccer This Way ความสำเร็จในสนามแข่งของเขายังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยอายุ 21 ปี เขาคว้าแชมป์ยูธ คัพ มาแล้ว 3 สมัย, แชมป์ลีก 2 สมัย และได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง
ตอนที่เขาติดทีมชาติครั้งแรกนั้น เขาได้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษในศตวรรษที่ 20 ด้วยวัย 18 ปี 183 วัน สถิติดังกล่าวยืนยงมากว่า 40 ปีจนกระทั่ง ไมเคิล โอเว่น ของลิเวอร์พูลมาทำลายลงในเดือนกุมภาพันธ์ 1998
ดันแคนเสียชีวิตในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1958 เนื่องจากทนพิษบาดแผลจากโศกนาฏกรรมที่มิวนิคไม่ไหว แม้เขาจะใจแข็งต่อสู้จนข้ามคืนมาได้ก็ตาม หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดสได้จากไป วอลเตอร์ วินเทอร์บอทท่อม ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในตอนนั้นก็ได้บอกว่า "ด้วยคาแร็คเตอร์ และสปิริตของ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส ผมเริ่มมองเห็นแล้วว่าวงการฟุตบอลอังกฤษจะกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง"
ตอนที่มีการนำร่างไร้วิญญาณของเขากลับสู่บ้านเกิด มีผู้คนกว่า 5,000 ชีวิตมาเข้าแถวไว้อาลัยไปทั่วถนนที่เมืองดัดลี่ย์ เขาถูกฝังที่สุสานควีนส์ ครอสส์, ดัดลี่ย์, เวสต์ มิดแลนด์ส ชื่อของ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส ยังถูกกล่าวขวัญถึงมาจนถึงทุกวันนี้ในฐานะนักเตะพรสวรรค์ที่ยังไม่เคยได้ก้าวขึ้นสู่จุดพีคของอาชีพค้าแข้ง หลายคนที่โชคดีทันเห็นเขาลงเล่นล้วนแต่ยอมรับว่านี่คือนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา ทั้งที่พวกเขายังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำว่าดันแคนจะกลายเป็นนักเตะที่ดีกว่านี้ได้อีกแค่ไหน และหากจะให้เทียบความดังของเขากับนักเตะในชุดปัจจุบันก็ดูเหมือนว่าชื่อของ เวย์น รูนี่ย์ น่าจะใกล้เคียงกับเขามากที่สุดแล้ว
|
