Home

คู่แข่งสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
6 มิถุนายน 2568 16


แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มรดกของสโมสรสร้างขึ้นจากความสำเร็จมากมาย ผู้เล่นระดับตำนาน และช่วงเวลาที่น่าจดจำ ยูไนเต็ดมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในการครองความยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศและยุโรป ด้วยแชมป์ลีกและถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย สโมสรมีฐานแฟนบอลทั่วโลก และยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนบอลทั่วโลกผ่านประวัติศาสตร์อันโดดเด่นและการมีส่วนร่วมในวงการฟุตบอล

การแข่งขันในฟุตบอลถูกกำหนดด้วยความเข้มข้น ประวัติศาสตร์ และความปรารถนาที่จะเหนือกว่าทีมคู่แข่ง การเป็นคู่แข่งในฟุตบอลประกอบด้วยทั้งความเคารพและความเป็นปฏิปักษ์ ในขณะที่ทั้งสองทีมต่อสู้เพื่อความเป็นหนึ่ง การแย่งชิงแชมป์ การเจอกันในแมตช์ประวัติศาสตร์ และฐานแฟนบอลที่เปี่ยมไปด้วยความหลงใหล ล้วนหล่อหลอมให้เกิดความเป็นคู่แข่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ซิตี้ อาร์เซนอล และเชลซี ต่างก็มีส่วนในการเพิ่มความเข้มข้นของการแข่งขันเหล่านี้ ความเป็นคู่แข่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมเส้นทางของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผลักดันให้สโมสรพัฒนาไปสู่จุดสูงสุด และสร้างช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นศึกแดงเดือดกับลิเวอร์พูล ดาร์บี้แมตช์กับซิตี้ หรือการปะทะอันดุเดือดกับอาร์เซนอลและเชลซี

1. ลิเวอร์พูล เอฟซี

การแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูล เอฟซี และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ ความเป็นคู่แข่งระหว่างลิเวอร์พูล เอฟซี และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1894 เมื่อทีมลิเวอร์พูลเอาชนะนิวตัน ฮีธ ซึ่งเป็นสโมสรต้นแบบของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในการแข่งขันเพลย์ออฟเลื่อนชั้น/ตกชั้น แมตช์นั้นถือเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างทั้งสองสโมสร ความขัดแย้งยิ่งรุนแรงขึ้นในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจหลังจากที่แมนเชสเตอร์สร้างคลองเดินเรือเพื่อหลีกเลี่ยงท่าเรือลิเวอร์พูล การแข่งขันระหว่างทั้งสองสโมสรได้พัฒนาไปจากการแข่งขันระดับภูมิภาคสู่หนึ่งในศึกฟุตบอลที่ดุเดือดที่สุดในโลก

สถิติการพบกันทั้งหมดระหว่างลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ที่ ลิเวอร์พูลชนะ 72 นัด ขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 83 นัด และเสมอ 61 นัด ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบในการพบกันช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยผลงานชนะ 5 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้เพียง 1 นัดในศึกพรีเมียร์ลีก ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2020 ถึงพฤษภาคม 2025 ฟอร์มล่าสุดของลิเวอร์พูลรวมถึงชัยชนะ 3-0 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งตอกย้ำความเหนือชั้นของพวกเขาในการแข่งขันอันยาวนานนี้

ชัยชนะ 4-1 ของลิเวอร์พูลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในเดือนมีนาคมปี 2009 ถือเป็นความพ่ายแพ้ในบ้านที่ย่อยยับที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบ 17 ปี อีกหนึ่งแมตช์ที่น่าจดจำเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2021 เมื่อลิเวอร์พูลถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5-0 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด โดยโมฮาเหม็ด ซาลาห์ทำแฮตทริกได้ แมตช์ในเดือนเมษายน 2022 ลิเวอร์พูลแสดงความเหนือชั้นอีกครั้งด้วยการเอาชนะ 4-0 ที่แอนฟิลด์ การแข่งขันเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของศึกระหว่างสองสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอังกฤษ

2. แมนเชสเตอร์ซิตี้

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1881 ความเป็นคู่แข่งระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ซิตี้เริ่มขึ้นเมื่อต้นกำเนิดของทั้งสองสโมสร คือ เซนต์มาร์ก (ต้นแบบของซิตี้) พบกับนิวตัน ฮีธ (ต้นแบบของยูไนเต็ด) การพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในลีกเกิดขึ้นในฤดูกาล 1894-95 โดยยูไนเต็ดชนะ 5 ต่อ 2 ความเข้มข้นของการแข่งขันเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 เมื่อทั้งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ซิตี้ต่อสู้เพื่อความเป็นหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ ความเป็นคู่แข่งนี้ได้พัฒนาจากการแข่งขันระดับท้องถิ่นไปสู่ความยิ่งใหญ่ระดับโลก ประวัติศาสตร์และความสำเร็จที่แตกต่างกันของทั้งสองสโมสรทำให้การแข่งขันนี้กลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุด

สถิติการพบกันทั้งหมดอยู่ที่ 196 นัด โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 80 นัด ขณะที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ชนะ 61 นัด และเสมอกัน 55 นัด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นฝ่ายได้เปรียบ โดยชนะ 3 จาก 5 นัดหลังสุด ส่วนยูไนเต็ดชนะ 2 นัด หนึ่งในชัยชนะของซิตี้เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2022 เมื่อพวกเขาชนะ 6-3 ความสำเร็จล่าสุดของยูไนเต็ดรวมถึงชัยชนะ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 2024 แมตช์นั้นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของยูไนเต็ดในเกมที่มีความกดดันสูง การแข่งขันนี้ยังคงเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่แฟนบอลรอคอยมากที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ และได้รับความสนใจจากทั่วโลก

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ได้แก่ แมตช์ในเดือนตุลาคม 2022 ที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ชนะ 6-3 โดยเออร์ลิง ฮาแลนด์ และฟิล โฟเด้น ทำแฮตทริกในเกมนั้น แสดงให้เห็นถึงพลังเกมรุกของซิตี้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพลิกกลับมาชนะอย่างดราม่า 3-2 ในเดือนเมษายน 2018 กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งชัยชนะครั้งนั้นทำให้การฉลองแชมป์ของซิตี้ต้องเลื่อนออกไป โดยมีประตูจากพอล ป็อกบา และคริส สมอลลิง ยูไนเต็ดยังชนะ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยอเลฮานโดร การ์นาโช และค็อบบี ไมนู ทำประตูให้กับยูไนเต็ด เก็บชัยชนะสุดประทับใจไว้ได้ แมตช์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มข้นและการแข่งขันอันดุเดือดของศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้

3. ลีดส์ยูไนเต็ด

การแข่งขันระหว่างลีดส์ยูไนเต็ดกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "โรสส์ดาร์บี้" มีต้นกำเนิดจากความเป็นศัตรูในประวัติศาสตร์ระหว่างแลงคาเชียร์และยอร์กเชียร์ ความเป็นคู่แข่งระหว่างทั้งสองสโมสรยิ่งรุนแรงขึ้นในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อแลงคาเชียร์และยอร์กเชียร์แข่งขันกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ความเป็นศัตรูในแง่ฟุตบอลเริ่มต้นขึ้นในปี 1923 เมื่อทั้งสองทีมพบกันครั้งแรกในเกมลีก โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 1-0 ที่สนามเอลแลนด์โร้ด การเจอกันของทั้งสองทีมมักเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดและฐานแฟนบอลที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญคือรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1965 ซึ่งเต็มไปด้วยการเล่นที่รุนแรงและความตึงเครียดอย่างมาก ความเป็นคู่แข่งยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นในยุค 1970 เมื่อทั้งลีดส์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแย่งชิงความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยมีการย้ายทีมของผู้เล่น เช่น กอร์ดอน แม็คควีน และโจ จอร์แดน จากลีดส์ไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยิ่งเพิ่มความเป็นศัตรูเข้าไปอีก การห่างหายจากการแข่งขันระหว่างสองทีมยาวนานถึง 16 ปี จนกระทั่งกลับมาเจอกันอีกครั้งในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-21

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายนำในสถิติการพบกันทั้งหมดกับลีดส์ยูไนเต็ด ณ เดือนพฤษภาคม 2025 ยูไนเต็ดชนะ 16 นัด ลีดส์ชนะ 4 นัด และเสมอกัน 8 นัด จากการพบกัน 28 นัดในพรีเมียร์ลีก การพบกันครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2023 โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 2-0 ที่เอลแลนด์โร้ด ในฤดูกาลก่อนหน้านั้น ยูไนเต็ดชนะ 5-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าที่ต่อเนื่อง ยูไนเต็ดชนะ 17 จากการพบกันทั้งหมด 30 นัด ลีดส์ชนะ 4 นัด และเสมอกัน 9 นัด สถิติเหล่านี้ตอกย้ำความได้เปรียบอย่างต่อเนื่องของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างลีดส์ยูไนเต็ดกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้แก่ รอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1965 ซึ่งลีดส์เอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-0 ในนัดรีเพลย์ที่สนามซิตี้กราวด์ เกมนี้ถูกจดจำในฐานะการเล่นที่ดุดันและบรรยากาศที่ตึงเครียด ลีดส์ถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5-1 ที่เอลแลนด์โร้ด ในการแข่งขันดิวิชันหนึ่งปี 1972 ซึ่งเป็นแมตช์ที่โดดเด่นด้วยจำนวนประตูที่สูงและความเหนือชั้นของลีดส์ รอบสามของเอฟเอคัพปี 2010 ลีดส์ซึ่งอยู่ในลีกวันในขณะนั้น เอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-0 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งถือเป็นการพลิกล็อกที่โดดเด่นจากความแตกต่างของระดับลีก และเป็นชัยชนะที่ลีดส์รอคอยมายาวนาน แมตช์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่เข้มข้นและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของศึกระหว่างลีดส์ยูไนเต็ดกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

4. เชลซี

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเชลซีเริ่มต้นขึ้นจากการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1905 ความเป็นคู่แข่งนี้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดหลายทศวรรษในยุคพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลเชลซี ภายใต้การบริหารของโรมัน อับราโมวิชในช่วงปี 2000 กลายเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ ท้าทายความยิ่งใหญ่ที่ยาวนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงที่การแข่งขันทวีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อทั้งสองทีมมักจะต้องแย่งชิงแชมป์ทั้งในประเทศและในยุโรป ทำให้การเจอกันของพวกเขายิ่งดุเดือดยิ่งขึ้น

เชลซีเป็นฝ่ายได้เปรียบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงการพบกันล่าสุด โดยแมตช์ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2025 เชลซีเอาชนะยูไนเต็ดไป 1-0 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะทั้งหมด 83 นัดในการพบกัน เชลซีชนะ 57 นัด และเสมอกัน 57 นัด ผลงานล่าสุดของเชลซีแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเริ่มครองความได้เปรียบในการเป็นคู่แข่งกับยูไนเต็ด ทำให้การเจอกันของทั้งสองทีมกลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่แฟนบอลรอคอยมากที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเชลซี ได้แก่ นัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 2008 ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์หลังเสมอกัน 1-1 และชนะในการดวลจุดโทษ 6-5 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สามได้สำเร็จ เชลซีและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเสมอกันอย่างสุดมัน 3-3 ในฤดูกาลพรีเมียร์ลีกปี 2012 โดยยูไนเต็ดพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 3-0 กลับมาแบ่งแต้มได้อย่างน่าทึ่ง อีกหนึ่งแมตช์ที่น่าจดจำเกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อเชลซีถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-0 อย่างเหนือชั้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชลซีต่อยูไนเต็ดในช่วงหลัง แมตช์เหล่านี้ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความดุเดือดและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของการแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเชลซี

5. อาร์เซนอล

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอลเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 1894 เมื่อลีกรูปแบบเก่าที่ชื่อว่าอาร์เซนอล หรือวูลวิช อาร์เซนอล พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หรือนิวตัน ฮีธ และจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ความเป็นคู่แข่งนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ถึงต้นยุค 2000 เมื่อทั้งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและอาร์เซนอลมักจะขับเคี่ยวกันเพื่อแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ผู้จัดการทีมระดับตำนานอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และอาร์แซน เวนเกอร์ ได้เติมเชื้อไฟให้กับความดุเดือดของการแข่งขัน โดยเฉพาะการดวลกันของสองกัปตันอย่างรอย คีน และปาทริค วิเอร่า การพบกันของทั้งสองทีมเต็มไปด้วยความเข้มข้นและดราม่า ซึ่งทำให้การแข่งขันนี้กลายเป็นหนึ่งในศึกที่น่าจดจำที่สุดของฟุตบอลอังกฤษ

สถิติการพบกันทั้งหมดระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอล ณ เดือนพฤษภาคม 2025 แสดงให้เห็นว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 99 นัด อาร์เซนอลชนะ 90 นัด และเสมอกัน 55 นัด อาร์เซนอลเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบในช่วงหลัง โดยชนะ 7 จาก 11 นัดหลังสุด ซึ่งรวมถึงชัยชนะ 2-0 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024 และชัยชนะ 1-0 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2024 อาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่เหนือกว่าในการพบกันช่วงหลัง โดยเฉพาะในเกมลีกสำคัญ

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอล ได้แก่ นัดรีเพลย์รอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1999 ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะอาร์เซนอล 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยไรอัน กิ๊กส์ยิงประตูเดี่ยวระดับตำนาน ช่วยให้ยูไนเต็ดเข้าสู่เส้นทางคว้าเทรเบิลในฤดูกาลนั้น "ศึกโอลด์แทรฟฟอร์ด" ปี 2003 จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่เต็มไปด้วยความตึงเครียดเมื่อผู้เล่นอาร์เซนอลเผชิญหน้ารุด ฟาน นิสเตลรอย หลังจากที่เขายิงจุดโทษพลาด ในปี 2011 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถล่มอาร์เซนอล 8-2 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในผลการแข่งขันที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ของคู่นี้ แมตช์เหล่านี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและดราม่าที่เป็นเอกลักษณ์ของศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอล

6. นิวคาสเซิลยูไนเต็ด

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ดมีประวัติยาวนานกว่าศตวรรษ โดยมีการพบกันครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในช่วงเริ่มต้น นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเป็นฝ่ายเหนือกว่า โดยคว้าแชมป์ลีกและเอฟเอคัพได้หลายครั้ง ขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเริ่มสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ความเป็นคู่แข่งทวีความเข้มข้นในช่วงทศวรรษ 1990 โดยเฉพาะในฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 1995-96 เมื่อเควิน คีแกน พานิวคาสเซิลขึ้นนำห่างถึง 12 แต้มในการลุ้นแชมป์ ขณะที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวยิ่งเพิ่มความตึงเครียดระหว่างทั้งสองสโมสร และทำให้การพบกันในแต่ละครั้งมีความหมายมากยิ่งขึ้น

นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบในศึกนี้ในช่วงฤดูกาลหลัง ๆ ณ เดือนพฤษภาคม 2025 โดยพวกเขาชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รวมถึงชัยชนะ 4-1 ที่สนามเซนต์เจมส์พาร์กในเดือนเมษายน 2025 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะทั้งหมด 92 นัด ขณะที่นิวคาสเซิลชนะ 48 นัด และทั้งสองทีมเสมอกัน 41 นัด ฟอร์มล่าสุดของนิวคาสเซิลแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังในศึกนี้ โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีปัญหาในฤดูกาล 2024-25 และรั้งอันดับที่ 16 ของตารางพรีเมียร์ลีก การเปลี่ยนแปลงของความสมดุลทำให้การแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมมีความสูสีและเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยนิวคาสเซิลกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ได้แก่ แมตช์พรีเมียร์ลีกปี 1996 ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะนิวคาสเซิล 4-1 ในเกมสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ โดยเอริก คันโตนา มีบทบาทสำคัญในชัยชนะครั้งนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเฉือนชนะนิวคาสเซิล 3-2 ในเกมที่เต็มไปด้วยดราม่าที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นการพบกันที่มีเกมรุกแลกกันอย่างเข้มข้น ด้านนิวคาสเซิลยูไนเต็ดถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-1 ที่เซนต์เจมส์พาร์กในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานที่เหนือกว่าที่สุดของนิวคาสเซิลในช่วงหลัง แมตช์เหล่านี้เน้นให้เห็นถึงความเข้มข้นของศึกนี้และการเปลี่ยนแปลงของพลังระหว่างทั้งสองสโมสร

7. บาร์เซโลนา

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับบาร์เซโลนาได้ถูกหล่อหลอมจากการพบกันสุดดราม่าในเวทียุโรป โดยเฉพาะในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก การพบกันครั้งสำคัญครั้งแรกของทั้งสองทีมเกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพปี 1991 ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะบาร์เซโลนา 2-1 ทีมของโยฮัน ครัฟฟ์ ต่อมา บาร์เซโลนาเป็นฝ่ายได้เปรียบ โดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกทั้งปี 2009 และ 2011 ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ลิโอเนล เมสซี มีบทบาทโดดเด่นในทั้งสองเกม และได้จารึกชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์ของศึกนี้ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บาร์เซโลนายังคงครองความได้เปรียบเหนือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ณ เดือนพฤษภาคม 2025 สถิติการพบกันทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าบาร์เซโลนาชนะ 5 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้เพียง 2 นัดต่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชัยชนะ 3-1 ที่คัมป์นูในเดือนเมษายน 2025 ยิ่งตอกย้ำถึงความเหนือชั้นของพวกเขา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบปัญหาในฤดูกาล 2024-25 และพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับแท็กติกและพลังเกมรุกของบาร์เซโลนา ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบาร์เซโลนาได้ทำให้พวกเขากลายเป็นฝ่ายครองความเป็นใหญ่ในศึกนี้

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับบาร์เซโลนา ได้แก่ นัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพปี 1991 ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะบาร์เซโลนา 2-1 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชัยชนะครั้งสำคัญแรก ๆ ของพวกเขาเหนือยักษ์ใหญ่จากสเปน รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 2009 บาร์เซโลนาโชว์ฟอร์มเหนือกว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเอาชนะไป 2-0 โดยได้ประตูจากลิโอเนล เมสซี และซามูเอล เอโต้ บาร์เซโลนายังแสดงความเหนือชั้นอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศปี 2011 ด้วยชัยชนะ 3-1 โดยได้ประตูจากเมสซี เปโดร และดาบิด บียา แมตช์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างทั้งสองสโมสร โดยที่บาร์เซโลนายังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบในศึกนี้

8. แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 เมื่อทั้งสองสโมสรพบกันครั้งแรกในฟุตบอลลีก ดิวิชันหนึ่ง แบล็กเบิร์นเคยเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของวงการฟุตบอลอังกฤษในยุคแรก โดยคว้าแชมป์เอฟเอคัพหลายครั้งก่อนที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะเริ่มก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุด ความเป็นคู่แข่งทวีความเข้มข้นในช่วงทศวรรษ 1990 โดยเฉพาะในฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 1994-95 เมื่อแบล็กเบิร์นภายใต้การคุมทีมของเคนนี ดัลกลิช คว้าแชมป์ลีกโดยมีคะแนนมากกว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพียงแต้มเดียว ชัยชนะครั้งนั้นถือเป็นยุคทองของแบล็กเบิร์น และยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในการเป็นคู่แข่งระหว่างทั้งสองสโมสร

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดครองความได้เปรียบในประวัติศาสตร์ของศึกนี้ ณ เดือนพฤษภาคม 2025 แต่แบล็กเบิร์น โรเวอร์สก็เคยสร้างชัยชนะที่น่าจดจำไว้ได้เช่นกัน สถิติการพบกันทั้งหมดระบุว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 53 นัด แบล็กเบิร์น โรเวอร์สชนะ 51 นัด และเสมอกัน 24 นัด การชนะ 2-1 ที่อีวูดพาร์กถือเป็นสัญญาณของการกลับมาสู่เวทีฟุตบอลอังกฤษของแบล็กเบิร์น หลังจากเกมล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2025 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ฟอร์มไม่แน่นอนในฤดูกาล 2024-25 ประสบปัญหาในการรักษาผลการแข่งขันกับทีมอันดับต่ำกว่า ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมในช่วงหลังมีความสูสียิ่งขึ้น

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ได้แก่ เกมตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1994-95 ที่แบล็กเบิร์นเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0 ในเดือนเมษายน 1995 ซึ่งเป็นชัยชนะสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถล่มแบล็กเบิร์น 7-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในปี 2010 โดยดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟยิงคนเดียว 5 ประตูในฟอร์มการเล่นสุดยอด แมตช์ในวันส่งท้ายปีเก่า 2011 แบล็กเบิร์นสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-2 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ทั้งที่ยูไนเต็ดเป็นต่ออย่างมาก แมตช์เหล่านี้สะท้อนถึงความเข้มข้นและความไม่คาดเดาได้ของศึกคู่นี้

9. เอซี มิลาน

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเอซี มิลาน ถือเป็นหนึ่งในศึกที่เป็นตำนานที่สุดในฟุตบอลยุโรป โดยมีที่มาจากการพบกันในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก การเผชิญหน้าครั้งสำคัญครั้งแรกเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโรเปียนคัพฤดูกาล 1957-58 ซึ่งเอซี มิลานเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ ความพ่ายแพ้ในช่วงต้นนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างทั้งสองสโมสร ความเป็นคู่แข่งยิ่งทวีความเข้มข้นในยุค 2000 เมื่อทั้งสองทีมพบกันหลายครั้งในรอบน็อกเอาต์ของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยเอซี มิลานเป็นฝ่ายได้เปรียบ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2004-05 และ 2006-07 ที่สามารถเขี่ยยูไนเต็ดตกรอบได้ ด้วยฟอร์มการเล่นระดับตำนานของนักเตะอย่าง กาก้า, แคลเรนซ์ เซดอร์ฟ และฟิลิปโป้ อินซากี้

เอซี มิลานและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงเป็นกำลังสำคัญในฟุตบอลยุโรป สถิติการพบกันทั้งหมดระบุว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 6 นัด เอซี มิลานชนะ 5 นัด และเสมอ 1 นัด เอซี มิลานเป็นฝ่ายชนะในการพบกันล่าสุด 2-1 ที่ซานซิโรในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงฟอร์มอันแข็งแกร่งของพวกเขาเหนือยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีปัญหาในฤดูกาล 2024-25 และพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับวินัยทางแท็กติกและพลังเกมรุกของมิลาน ทำให้เอซี มิลานกลายเป็นคู่แข่งที่รับมือได้ยากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเอซี มิลาน ได้แก่ รอบรองชนะเลิศยูโรเปียนคัพปี 1958 ซึ่งเอซี มิลานเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-0 ในเลกที่สอง ถือเป็นหนึ่งในฟอร์มการเล่นที่เหนือชั้นที่สุดในช่วงแรกของพวกเขา รอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 2007 เอซี มิลานถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-0 โดยได้ประตูจากกาก้า, เซดอร์ฟ และจิลาร์ดิโน ซึ่งช่วยให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะเอซี มิลาน 4-0 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 2010 โดยเวย์น รูนีย์โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แมตช์เหล่านี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการแข่งขันและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของศึกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับเอซี มิลาน

10. ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

การแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 เมื่อทั้งสองสโมสรพบกันครั้งแรกในศึกเอฟเอคัพ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ต่างก็มีช่วงเวลาที่เหนือกว่าอีกฝ่ายในแต่ละยุค โดยการแข่งขันที่เข้มข้นมักจะเป็นจุดเด่นของการพบกันของทั้งคู่ ศึกนี้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นในยุคพรีเมียร์ลีกช่วงทศวรรษ 2000 เมื่อท็อตแนมเริ่มเป็นทีมที่ท้าทายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้อย่างต่อเนื่อง การพบกันที่น่าจดจำ รวมถึงเกมที่พลิกกลับมาได้อย่างดราม่าและเกมที่มีสกอร์สูง ทำให้คู่นี้กลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ครองความได้เปรียบในศึกนี้ในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา ณ เดือนพฤษภาคม 2025 โดยสถิติการพบกันทั้งหมดระบุว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 90 นัด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ชนะ 43 นัด และเสมอกัน 42 นัด สนามท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียมเป็นเจ้าภาพในการพบกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งท็อตแนมชนะไป 1-0 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบปัญหาในฤดูกาล 2024-25 โดยไม่สามารถรับมือกับพลังเกมรุกและวินัยทางแท็กติกของท็อตแนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งของท็อตแนมในระยะหลังทำให้พวกเขาอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งกว่าในศึกนี้

สามแมตช์ที่เป็นตำนานในศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้แก่ การพบกันเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2020 ซึ่งท็อตแนมถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 6-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด โดยแฮร์รี เคน และซน ฮึงมิน เป็นผู้นำเกมรุกให้ทีม อีกหนึ่งเกมที่น่าจดจำคือการพลิกกลับมาเอาชนะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 ที่สนามท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2021 หลังตกเป็นฝ่ายตามก่อน แต่กลับมายิงโดยเอดินสัน คาวานี, เฟร็ด และเมสัน กรีนวูด อีกหนึ่งแมตช์ที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2024 เมื่อท็อตแนมเฉือนชนะ 4-3 ในเกมที่เต็มไปด้วยการบุกแลกกันอย่างสุดมันและจังหวะดราม่าช่วงท้ายเกม แมตช์เหล่านี้ยังคงสะท้อนถึงความดุเดือดในการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีม และความไม่แน่นอนที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่พบกัน

การแข่งขันกับทีมคู่แข่งมีบทบาทอย่างไรในการสร้างตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด?

ตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ก่อร่างผ่านการแข่งขันกับทีมคู่แข่ง ซึ่งผลักดันให้สโมสรต้องพัฒนา ปรับตัว และมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซนอล และเชลซี ต่างก็เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยูไนเต็ดต้องปรับกลยุทธ์และเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ความเป็นคู่แข่งกับอาร์เซนอลในยุค "Invincibles" และเชลซีภายใต้การคุมทีมของโชเซ มูรินโญ ทำให้ยูไนเต็ดต้องยกระดับเกมของตน สร้างจิตวิญญาณแห่งชัยชนะที่ทำให้ทีมยังคงอยู่บนจุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ การแข่งขันเหล่านี้สร้างช่วงเวลาระดับตำนานที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสร การต่อสู้สุดเข้มข้นระหว่าง "เฟอร์กี้กับเวนเกอร์" ระหว่างยูไนเต็ดกับอาร์เซนอล เป็นตัวตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย หนึ่งในช่วงเวลาที่ไม่มีวันลืมคือการที่ยูไนเต็ดเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 1999 ซึ่งตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งด้านจิตใจและสไตล์การเล่นที่เร้าใจของสโมสร

การแข่งขันกับทีมคู่แข่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ขยายการเป็นที่รู้จักในระดับโลกและเพิ่มฐานแฟนบอลอย่างมหาศาล การแข่งขันกับลิเวอร์พูล ซึ่งถือว่าเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ ดึงดูดผู้ชมหลายล้านคนจากทั่วโลก การเติบโตของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์กลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ส่งผลให้ยูไนเต็ดได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทั้งในแง่ภาพลักษณ์และเชิงพาณิชย์ การแข่งขันเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างอัตลักษณ์และตำนานให้กับสโมสร แต่ยังทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคงสถานะในฐานะหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก การต่อสู้ที่ดุเดือดเหล่านี้ได้ขับเคลื่อนการเติบโตของยูไนเต็ด สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ และขยายการเข้าถึงในระดับโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่ตอกย้ำ ตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

วิธีติดตามสถิติล่าสุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับทีมคู่แข่งทำอย่างไร?

หากต้องการติดตามสถิติล่าสุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในการพบกับทีมคู่แข่ง สามารถทำได้โดยปฏิบัติตาม 4 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นแรก ให้เน้นที่เกณฑ์สำคัญ เช่น จำนวนชัยชนะ ผลเสมอ ความพ่ายแพ้ ผลต่างประตูได้เสีย และฟอร์มการเล่นของนักเตะแต่ละคน ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของผลงานทีมในการแข่งขันกับทีมคู่แข่งได้อย่างชัดเจน ขั้นที่สอง ทบทวนสถิติการพบกันล่าสุด โดยดูจากผลการแข่งขันที่ผ่านมา จำนวนประตูที่ยิงได้และเสีย รวมถึงแนวโน้มของฟอร์มทีมในเกมเหล่านี้ ขั้นที่สาม ติดตามสถิติของผู้เล่น เช่น ผู้ทำประตู แอสซิสต์ และผลงานในเกมรับ เพื่อเข้าใจบทบาทของนักเตะแต่ละคนได้ลึกยิ่งขึ้น และสุดท้าย ใช้แพลตฟอร์มอย่าง Ufabet ซึ่งให้ข้อมูลสถิติที่อัปเดตอยู่เสมอเกี่ยวกับการเจอกับทีมคู่แข่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ช่วยให้แฟนบอลสามารถติดตามฟอร์มทีมและประสิทธิภาพในการแข่งขันที่สำคัญเหล่านี้ได้อย่างสะดวก



บทความ
คู่แข่งสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
เมื่อข่าวการย้ายทีมของดาวเตะ PSG กลายเป็นหัวข้อหลักที่แฟนบอลพูดถึงทั่วทั้งยุโรป
ฤดูกาลแห่งความตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และบทเรียนจากวันคืนอันมืดมน
มือใหม่ลงทุนคริปโตยังทันไหม
ลงทุนทองคำแบบไหนให้ได้กำไรทันใจ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2024/25 : ความท้าทายบนสนาม ความหวังในเวทียุโรป
ส่องตำแหน่งที่ปีศาจแดงต้องปรับ เพื่อกลับมาซีซั่นหน้า
มรดกทางประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ทีมที่ดีที่สุดในแต่ละปี
8 นักเตะที่มูลค่าลดลงนับตั้งแต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญา
เทียบฟอร์มฮอยลุนด์กับ 3 กองหน้าเป้าหมายที่ปีศาจแดงเลือกไม่ปิดจ็อบด้วย
อ่านทั้งหมด


โปรแกรมแข่งขัน
v
สนาม Strawberry Arena, สวีเดน
รายการ กระชับมิตร
วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 20:00 น.




ดูบอลสด   bacska.com   https://hi88.chat/   ok9   ok9   sunwin   F168   789club   KUBET   Hi88   789bet   w88   OK9   F168   jun88   trực tiếp bóng đá   https://mb66co.com/   Kèo nhà cái   Mb66   UFABET168   sunwin   F168   https://mb66.racing/   ku bet   sunwin   w88   Hi88   Hi88   QQ88   78win   https://kubet.memorial/   kubet   8XBET   Xoilac TV   kubet   F168   w88   UFA365   UFA168   Hi88   Hi88   MB66   https://789bethv.com/   ok9   f8bet   Go88   Sunwin   https://hi88o.com/   f168   Fun88   Ufabet   Hi88   xoilac   xoilac   xoilac   xoilac   cakhia   bong 88   xoilac   AE888   hi88   F168   F168   kèo nhà cái   SHBET   sunwin   kubet   https://hi88com.biz/   F168   MB66   MB66   f168   BJ88   https://bong88vnd.com   8xbet   trang cá cược bóng đá   PUB88   TA88   SHBET  

© 2001-2025 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC