
ขณะที่ทีมชุดใหญ่ต้องอกหักจากถ้วยรางวัลประจำฤดูกาล 2004/05 ตรงกันข้ามทีมสำรองของสโมสรสามารถคว้าถ้วยรางวัลได้แทบจะทุกรายการ มีเพียงแค่ถ้วยแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์ คัพ เพียงเท่านั้นที่พวกเขาทำพลาดไป
ส่วนที่เหลือก็ไม่ทำให้ผิดหวังทั้ง ถ้วยพรีเมียร์ รีเสิร์ฟ ลีก ตอนเหนือ และปอนตินส์ ลีก รวมทั้งทีมเยาวชนยังคว้าถ้วย ปอนตินส์ ลีก คัพ และ ถ้วยพรีเมียร์ รีเสิร์ฟ ลีก ในรอบเพลย์ออฟ ได้อีกด้วย
ตามที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในการจัดตั้งโรงเรียนฝึกเยาวชนของอังกฤษขึ้นมา ทีมปีศาจแดง ได้สร้างสิ่งที่แตกต่างกันออกไปนั่นคือ ทีมสำรองที่สอง ที่จะช่วยป้อนนักเตะระดับเยาวชนเข้ามาเสริมทีมชุดใหญ่โดยตรง ด้วยภาระที่หนักอึ้งในการพยุงและดูแลเยาวชนเพื่อไต่เต้าในทีมสำรอง ทีมปีศาจแดง เลยสร้างทีมของปอนตินส์ ขึ้นมาและนั่นก็เป็นก้าวสำคัญที่มั่นคงในการพัฒนานักเตะของสโมสร
ไม่ว่าทีมสำรองชุดไหนๆ ผู้จัดการทีมต่างก็ต้องเผชิญหน้ากับการที่จะต้องพยายามรักษาสภาพความสมดุลในทีมระหว่างเรื่องการเอาชนะในแต่ละเกม และพัฒนานักเตะในสโมสรเพื่ออนาคต ซึ่งในฤดูกาลนี้ ริคกี้ ซบราเกีย ก็มองเห็นถึงความสำคัญของทั้ง 2 ประการ
อะไรคือกุญแจสำคัญในการแข่งขันในถ้วย ปอนตินส์ และพรีเมียร์ รีเสิร์ฟ ลีก?
"ปอนตินส์ ลีก ในเกมแรกๆ ของพวกเราออกไปเจอกับเร็กซ์แฮม นอกบ้านซึ่งมันน่าจะมีความสำคัญอย่างมากเลย เราสามารถเอาชนะมาได้ 4-1 และพวกเราก็พึงพอใจกับมันมาก คุณไม่สามารถมองออกเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างเมื่อเข้าไปสู่ระบบ ลีก ใหม่ๆ แต่เราทั้งหมดต่างรู้ดีว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและประสบการณ์ โดยรูปแบบมาตรฐานการเล่นของเรานั้นเล่นได้อย่างดีจริงๆ มันถูกปรับระดับมาอย่างดีแล้วในเรื่องของมาตรฐานการเล่น เราจึงสามารถคาดหวังในตัวของเด็กเองได้เลย"
แล้วในพรีเมียร์ รีเสิร์ฟ ล่ะ?
"มันเป็นจุดเปลี่ยนเลยทีเดียวเมื่อเราสามารถไปยันเสมอได้ 4-4 ในเกมกับแอสตัน วิลล่า เมื่อเดือนมกราคม เกมรับเราเล่นได้แย่มาก แต่เกมรุกเราเล่นได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน มันเป็นแรงกระตุ้นที่ผลักดันเราให้มาถึงจุดนี้เลย หลังจากที่เราไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยมา 13 เกมติดต่อกันก่อนที่เราจะควานหาชัยชนะเจอ ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถยิงได้ถึง 3 ประตูด้วยกันในเกมนั้น"
อะไรเป็นแรงผลักดันในเกมนั้นหรือ?
"มันคงเป็นความเชื่อมั่นน่ะครับ ในตอนนั้นวิลล่าเป็นหนึ่งในทีมชั้นแนวหน้าและก็เป็นคู่แข่งสำคัญของเราอีกด้วย พวกเขาใช้พี่น้องมัวร์ (ลุค กับ สตีเฟ่น) และโธมัส ฮิทเซิลแพร์เกอร์ ด้วยกำลังนักเตะที่มีประสบการณ์ทำให้ทีมเขาแกร่งขึ้น ก่อนเกมนั้นเราหวังไว้ว่าจะยันเสมอให้ได้ก่อน ท้ายที่สุดเราก็ต้องผิดหวัง เราเล่นกันไม่ออกพราะว่าเราถูกนำไปถึงไปถึง 4-2 เมื่อครึ่งเวลาแรก เราก็เลยต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะว่าเขาสามารถเอาชนะทีมชั้นนำได้และก็สามารถเอาชนะเขาได้จริงๆ ด้วย หลังจากนั้นเกมรับของเราก็ดีขึ้นผิดหูผิดตาไปเลย"
ผู้จัดการทีมบอกคุณว่าเป็นงานยากมากในสโมสรกับนักเตะที่ฟอร์มตกและหลุดจากการเป็นตัวจริงและรวมถึงพวกที่กำลังก้าวขึ้นมาด้วยว่ายังไง?
"มันสำคัญที่ว่าตัวนักเตะเองนั้นไม่ได้พัฒนาตัวเองในทีมสำรองมากกว่า คุณต้องลองมองดูมันอย่างเข้มงวดหน่อยในเรื่องการพัฒนาน่ะ คีแรน ริชาร์ดสัน ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ ในพรีเมียร์ชิพ กับเวสต์ บรอม และคริส อีเกิ้ลส์ ก็ได้รับโอกาสจากวัตฟอร์ด คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจะเสียนักเตะเหล่านี้ไปหรอก มันเป็นวัฏจักรน่ะ เพราะว่าเมื่อคุณสูญเสียนักเตะคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ไป มันก็เท่ากับว่าเป็นการเปิดทางให้นักเตะหนุ่มคนอื่นๆ ในทีมเยาชนได้ก้าวขึ้นมาทดแทนกัน อีเกิ้ลส์ ไปวัตฟอร์ด ส่วนลี มาร์ติน ก็ต้องการโอกาสในการลงสนามมากกว่านี้ เขาได้เดินมาถูกทางแล้ว ส่วนนักเตะสำรองรุ่นใหญ่ทั้งหมดก็จะถูกส่งไปให้สโมสรอื่นยืมตัว นี่คือหนทางเดียวที่สำคัญมากในทีมสำรองที่จะได้ลงเล่นฟุตบอล"
อะไรเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับลูกทีมของคุณ ชัยชนะหรือการปรับปรุงทักษะของนักเตะเอง?
"เราไม่ได้เริ่มต้นที่จะคิดถึงเรื่องการเอาชนะในลีก ก่อนที่จะถึงเดือนมีนาคมเสียอีก เป้าหมายหลักของเราคือการให้โอกาสลงเล่นมากกว่า แทบทุกครั้งที่เราหอบเอานักเตะเราลงเล่นผมรู้สึกทันทีได้เลยว่าเราต้องชนะแต่มันก็ต้องทำให้ได้ด้วยถึงจะถูก มีหลายครั้งเมื่อเราปลอ่ยนักเตะรุ่นใหญ่ออกไปบ้างแล้วดันนักเตะวัยรุ่นขึ้นมาแทน ถ้าเขามีความพร้อม เราก็จะให้เขาลงเล่น จากทรรศนะของผมคุณลองมองดูพัฒนาการของนักเตะให้ดีว่าแต่ละเดือนว่ามีการพัฒนาขึ้นไปขนาดไหน ทำไมคุณไม่ลองคิดว่าเราจะสามารถเอาชนะมันได้บ้างล่ะ? อย่างที่บอก เกมแรกในฤดูกาลนี้ของเรา มีข้อความหลายอันมาถึงเราว่า "เราไม่ได้มาเพื่อยิงประตู แต่เรามาเพื่อเอาชนะอะไรบางอย่าง" นั่นเป็นทัศนคติที่สำคัญที่เรายึดถืออยู่"
คุณสังเกตเห็นการเติบโตทางวุฒิภาวะของนักเตะบางคนบ้างไหม?
"นักเตะส่วนใหญ่แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถทำได้ เรามีจุดศูนย์รวมของนักเตะ ซึ่งโดยทั้งหมดเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะได้กับทุกๆ คนไม่ว่าหน้าไหนและเอาชนะได้ในทุกเกมที่ลงเล่นอีกด้วย ใครต่างก็บอกว่าเราเล่นได้ดีก็เพราะสิ่งนั้นแหละ จากจุดนั้นมันก็ไหลมาเทมาอย่างไม่หยุดยั้งทั้งจำนวนประตูและความหาที่ติมิได้ นับว่าเป็นโชคดีจริงๆ คุณสามารถทำประตูได้ถูกที่ถูกเวลา ทีมเราเล่นไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงคริสมาสต์ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลามหาโหดเลย คุณจะต้องหาทีมชุดที่ดีที่สุดจากชุดสำรองทั้งหมดเพื่อเป็นตัวจริงให้ได้ในฤดูกาลหลัง ขณะที่เราก็จำเป็นต้องพึ่งการกลับมาของนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาลอีก ในกรณีนี้เราได้ตั้งทีมขึ้นมาใหม่ให้เพียงพอกับการต่อสู้ทั้งฤดูกาลและนั่นมีส่วนช่วยให้เราเป็นอย่างมาก แล้วเราก็ยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ"
ทีมสำรองสร้างขึ้นมาส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะที่อายุน้อยๆ ทั้งนั้น คุณคิดว่าเขาพร้อมกันแล้วหรือ?
"ปิเก้, รอสซี่ และ ลี มาร์ติน ทั้งหมดต่างย้ายมาและต่างก็ทำหน้าที่ได้สุดยอดดีจริงๆ พลังการยิงประตูของซิลแวน เบล็ค นั้นมีประโยชน์ต่อเรามาก เมื่อเขาขาหักเราก็ต่างกลัวว่าจะเสียศูนย์หน้าดาวยิงเท้าฉกาจของเราไป แต่เราก็มีนักเตะคนอื่นๆ ที่สามารถทดแทนในตำแหน่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เดวิด พูล หรือ โคลิน ฮีธ พวกเขาต่างก็ทำได้ดี ที่สโมสรแห่งนี้ นักเตะหลายคนจะได้รับโอกาสและคุณจะต้องไขว่คว้ามันให้ได้ ในความรู้สึกนะ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ในฤดูกาลหน้า"
นักเตะในทีมสำรองตอนนี้สามารถก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้หรือยัง?
"นั่นจะเป็นโอกาสของเขาในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลและผมก็หวังไว้ด้วยว่าจะมีผู้เล่นหนึ่งหรือสองคนจะสามารถได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ชิพ บ้างเหมือนกัน มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาทำมัน การออกไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวจะเป็นก้าวที่สำคัญของพวกเขาเอง"