
นอกจากการได้รับบาดเจ็บแล้ว เกมโดยรวมในฤดูกาลนี้คุณคิดว่ามันไปได้ดีกว่าที่คาดไว้ หรือว่าคุณหวังไว้มากกว่านั้น
"มันเป็นช่วงเวลาที่ตะกุกตะกักสำหรับผม เท้าผมหักตั้งแต่เกมแรกในลีก และต้องพักรักษาตัว หลังจากนั้นผมก็กลับมา และเล่นได้ดี หลังจากนั้นผมก็ได้รับบาดเจ็บอีกที่ข้อเท้า แต่ก็กลับมาเล่นได้อีก หวังว่าผมจะกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง และทำประตูได้เรื่อยๆ เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีในลีก เราเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนักในช่วงเดือนแรกๆ ผมคิดว่าเราต่างก็กังวลว่าจะทำคะแนนหลุดลอยไปมากแล้ว แต่หลังจากนั้นเราก็ทำได้ดีขึ้น และเราก็ยังได้เห็นว่าทีมใหญ่ทีมอื่นๆ อย่างอาร์เซนอล และลิเวอร์พูล ก็พลาดเก็บคะแนนไปหลายคะแนนเช่นกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ที่จะลุยต่อในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล"
คุณทำได้ 8 ประตูจากการลงเล่น 7 เกมในช่วงเดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน นั่นถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของคุณมั๊ย?
"ผมไม่คิดว่าผมเล่นได้ดีนะ แต่ถ้าพูดในแง่การทำประตูก็ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด ในอาชีพที่ผมทำประตูได้แบบนี้ ซึ่งก็น่าพอใจมาก เมื่อคุณมีโอกาสแบบนั้นที่ได้ลงเล่นทุกเกม และมีความเชื่อว่าคุณจะสามารถทำประตูได้ คุณก็จะทำได้"
เวลาที่คุณทำประตูไม่ได้ คุณรับมือกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร และคุณยอมรับมันมั๊ย?
"แน่นอน คุณต้องยอมรับมัน ผมคิดว่าศูนย์หน้าทุกคนต้องยอมรับความจริงว่าคุณจะต้องถูกวิจารณ์ เมื่อใดก็ตามที่คุณทำประตูไม่ได้ คุณเพียงแต่ต้องทำความคุ้นเคยกับมัน และมุ่งมั่นอยู่ที่เกมของคุณ"
หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับคาร์ลอส เตเบซ คู่หูของคุณ แล้วคุณล่ะเชื่อมั๊ยว่าพวกคุณจะไปได้ดี?
"แน่นอน เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และเขาก็ทำได้ดีมากนับตั้งแต่เขามาร่วมทีม ผมคิดว่าเราเล่นด้วยกันได้ดี คู่ของเราพิสูจน์ให้เห็นว่านักเตะที่ดีทุกคนต้องสามารถเล่นด้วยกันได้ ไม่ว่าพวกเขาจะคล้ายกันแค่ไหนก็ตาม"
คุณคิดยังไงที่ผู้จัดการทีมเลือกประตูที่เตเบซ ยิงมิดเดิ้ลสโบรซ์ ซึ่งคุณเป็นคนตอกลูกส้นให้เขา เป็นประตูสุดสวยของฤดูกาลนี้?
"มันเป็นประตูที่ดี และเป็นเรื่องของสัญชาติญาณล้วนๆ ผมรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาจ่ายบอลให้ผมแล้ว เขาก็จะวิ่งตามผมมาเสมอ และผมก็จัดการจ่ายบอลกลับให้เขา และเขาก็สามารถทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นประตูที่เยี่ยมจริงๆ และผมก็ดีใจกับเขาด้วย"
เตเบซและนักเตะคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมทีมในฤดูกาลนี้ดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับชีวิตในแมนฯ ยูไนเต็ด ได้เร็วมาก พวกเขานำอะไรมาสู่ห้องแต่งตัวบ้าง และพวกเขาได้ร่วมก๊วนหยอกล้อกับพวกคุณหรือยัง?
"ใช่เลย นานี่เป็นคนที่ตลกมากในห้องแต่งตัว เขาเรียนรู้ภาษาได้เร็วมาก บางทีอาจจะเร็วว่าคาร์ลอส และแอนเดอร์สัน ด้วยซ้ำ แอนเดอร์สันเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเรื่องตลก ในขณะที่คาร์ลอส เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบๆ และมักจะนั่งเฉยๆ มองเพื่อนๆ และหัวเราะคนเดียว ส่วนโอเว่น (ฮาร์กรีฟส์) ก็รู้จักใครหลายๆ คนที่นี่แล้วจากการเล่นในทีมชาติอังกฤษด้วยกัน ดังนั้น พวกเขาจึงเข้ากับเราได้ดีมาก"
คุณกล่าวก่อนเริ่มฤดูกาลว่า คุณรู้สึกว่านักเตะชุดนี้เป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุด ตั้งแต่คุณย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด คุณยังคิดเช่นนั้นอยู่หรือเปล่า?
"ผมคิดว่ามันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการที่นักเตะได้สับเปลี่ยนกันลงเล่น เมื่อคนใดคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บ และพวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีให้กับทีม เราสามารถรับมือกับมันได้ดีทีเดียว นั่นแหละคือสิ่งที่คุณได้เห็นในทีมที่แข็งแกร่ง ผมคิดว่าการได้เป็นแชมป์ทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นมาก แม้จะมีความกดดันเนื่องจากความสำเร็จ และทุกทีมต่างก็ต้องการเอาชนะเรา แต่เราก็มีความเชื่อ และสำหรับผมแล้วทีมชุดนี้ถือว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมเล่นมา"
บางคนกล่าวว่าแมนฯ ยูไนเต็ด หวังพึ่งคุณ และโรนัลโด้มากเกินไป คุณรู้สึกถึงความกดดันนี้มั๊ย?
"ไม่นะ ที่สำคัญที่สุดคือเรารู้ว่าฟุตบอลคือเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม และทั้งทีมควรได้รับความดีความชอบ ไม่ใช่แค่นักเตะคนใดคนหนึ่ง ทุกคนในทีมต่างก็เล่นตำแหน่งของตัวเอง และในฐานะทีมเราคว้าชัยชนะมาด้วยกัน และเราก็พ่ายแพ้ด้วยกัน"
คุณได้เป็นกัปตันทีมในนัดที่แมนฯ ยูไนเต็ด พบโรม่า ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่พบ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างได้ที่เดินออกมาจากอุโมงค์ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก?
"มันเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมมากที่ได้นำทีมเดินออกมาจากอุโมงค์ ผมได้เป็นกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด นัดแรกในเกมที่พบกับโคเปนเฮเก้น ในฤดูกาลที่แล้วที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่การได้เป็นกัปตันทีมอีกครั้งในเกมที่พบกับทีมอย่างโรม่า เป็นเหมือนสิ่งที่พิเศษจริงๆ เกมกับโคเปนเฮเก้น มีนักเตะ 2 - 3 คนบาดเจ็บในช่วงวอร์มอัพ และผู้จัดการทีมก็บอกผมก่อนเกมเริ่มไม่นานแต่เกมกับโรม่า เขาบอกผม 2 - 3 วันก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น ผมจึงมีเวลาที่ได้ตื่นเต้น และเตรียมตัวกับมัน ก็หวังว่าผมจะมีโอกาสได้ทำหน้าที่นั้นอีก"