การเซฟลูกจุดโทษอย่างวีรบุรุษของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ในกรุงมอสโก ช่วยย้ำชัยสองแชมป์ทั้งพรีเมียร์ ลีก และแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจเป็นเหมือนจุดสูงสุดของอาชีพสำหรับผู้รักษาประตูวัย 37 ปีผู้นี้ แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย ผู้รักษาประตูชาวดัทช์ เลือดปีศาจแดง ยังคงมุ่งมั่นพยายามต่อ แม้ว่าจะเพิ่งผ่านพ้นฤดูกาล 2007/08 อันไม่อาจลืมเลือนได้
เริ่มตั้งแต่ตอนต้นเลย แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นฤดูกาลได้แปลกมาก เพราะสามารถเก็บได้เพียง 2 แต้ม จากเกม 9 นัด ในพรีเมียร์ ลีก
"ทั้งๆ ที่พยายามเล่นให้ดีแล้ว แต่เรากลับทำประตูเพื่อเก็บคะแนนไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็เอาชนะ 1-0 ได้ ซึ่งสำคัญสำหรับเรามาก และเมื่อได้ประตูมาแล้ว เราก็ได้เล่นอีก 4 เกม ที่สามารถเก็บได้เกมละ 4 ประตู เราเล่นได้เยี่ยมมากๆ ในช่วงนั้น ต่อมา เราก็โชว์ฟอร์มพร้อมเอาชนะเต็มที่ หลายครั้งเราก็เล่นได้เยี่ยมยอด แต่บางครั้งมันก็ไม่ ที่สโมสรนี้เราจะผิดหวังเสมอเมื่อเอาชนะไม่ได้ แต่เราก็ยังมีความสุขกับการเล่นของเราอยู่ดี"
รู้สึกกดดันมั๊ยที่ต้องเล่นในฐานะแชมป์
"ความกดดันที่เราต้องเอาชนะให้ได้นั้น มันมีอยู่ทุกเกมอยู่แล้ว ดังนั้นมันก็ไม่ต่างอะไร พวกเรานักเตะพุ่งเป้าไปที่การเอาชนะ และคู่ต่อสู้ของเราก็มักจะงัดไม้เด็ดออกมาเสมอ ด้วยความที่เราเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด มันไม่แตกต่างจากการเป็นแชมป์ เราเตรียมตัวมาแล้วว่า ทีมต่างๆ ที่เราต้องเล่นด้วยนั้น จะต้องทุ่มสุดตัวแน่ๆ"
สำหรับการลงเล่นของคุณเองแล้ว เกมไหนที่คุณชอบที่สุด
"คงต้องบอกว่าเกมที่เราไปเยือนสปอร์ติ้ง ลิสบอน เกมนั้นมันแทบจะสมบูรณ์แบบเลยสำหรับผม ทั้งการเตรียมตัว การซ้อมก่อนลงเล่น ลูกที่ผมเซฟได้ การประสานงานกันระหว่างผมกับกองหลัง ทุกอย่างมันลงตัวหมด เราถูกกดกันอยู่หลายช่วงในเกมนั้น แต่เมื่อผมเซฟได้ ช่วยเปลี่ยนรูปเกม และช่วยให้เราเอาชนะมาได้ 1-0 และก็เป็นเกมสำคัญที่ทำให้เราก้าวมาคว้าแชมป์ได้"
ทีมคู่แข่งทีมไหนที่คุณคิดว่าเอาชนะได้ยากที่สุด
"เราแพ้แค่ไม่กี่เกม ซึ่งก็หมายความว่าเกมเหล่านั้นต่างก็ยากทุกเกม แต่เกมที่เราไปเยือนเรดดิ้ง เป็นเกมที่หนักกว่าเกมไหนๆ เป็นเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เราต้องทำงานกันอย่างหนักและต้องวิ่งกันเยอะมาก ในที่สุดเราก็ชนะ 2-0 แต่ประตูที่สองมาช้าไปหน่อย เรดดิ้งทำให้เรายุ่งยากมากเลย เกมที่เสมอ 1-1 กับสเปอร์ส ก็ลำบากเหมือนกัน ตอนที่เตเวซยิงประตูตีเสมอได้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนั้นช่วยชีวิตเราไว้ได้เลย ทั้งสองเกมเป็นเกมที่ยากที่สุดสำหรับฤดูกาลนี้เลย"
มีนักเตะจากทีมคู่แข่งคนไหนที่คุณว่าน่าสนใจบ้างไหม
"แน่นอน ก็ต้องเป็น (ลีโอเนล) เมซซี่ เราเล่นกับเขาได้ดี ผมว่านะ แต่คุณก็เห็นได้ชัดว่าในเกมที่เราต้องเจอกับบาร์เซโลน่า เขาเล่นได้เยี่ยมแค่ไหน เราหยุดเขาได้ทั้งสองเกม และนั่นก็ทำให้เราเอาชนะพวกเขามาได้"
คุณรู้สึกว่าบรรยากาศของโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันที่เจอกับบาร์เซโลน่า มันน่าอัศจรรย์ไหม
"แฟนๆ ทุกคนตั้งใจเชียร์กันมาก เราอยากเอาชนะแทบขาดใจ และคู่แข่งก็เป็นบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นทีมที่เล่นได้ดีมากๆ ทุกอย่างถูกเตรียมมาเพื่อโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ และมันก็ใช่อย่างนั้นจริงๆ บรรยากาศมันเยี่ยมยอด ไม่ต้องสงสัยเลย ทั้งเสียงเชียร์และสีสันบนสแตน โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่เราถูกกดดันอย่างหนัก"
รู้สึกอย่างไรที่เอาชนะเชลซี, ลิเวอร์พูล, และอาร์เซน่อล ได้ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
"สำหรับนักเตะแล้ว ทุกเกมมันสำคัญหมด แต่เราก็รู้ว่าการเอาชนะเกมเหล่านั้นมันมีความหมายต่อการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก มากเพียงใด และสำหรับแฟนๆ เกมเหล่านั้นเป็นเกมที่พวกเขาอยากให้เราชนะที่สุด จากเสียงเชียร์และความรู้สึกทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสนามวันนั้นบอกเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการเก็บสามแต้มในเกมเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา และสำหรับแฟนๆ ด้วย แต่ละเกมต่างก็เข้มข้นแต่เราก็ได้รับผลอย่างที่เราต้องการ เมื่อคุณได้เล่นตั้ง 38 เกม ก็เป็นการยากที่จะบอกว่าเกมเพียง 3 เกมนั้นจะสำคัญที่สุด แต่ 3 เกมนั้นก็ช่วยสร้างกำลังใจให้เราได้มาก"
คุณเพิ่งต่อสัญญาออกไปอีกฤดูกาลหนึ่ง คุณพร้อมไหมกับการท้าทายจากสองผู้รักษาประตูหนุ่มที่เก่งกาจที่ต่อคิวหลังคุณอยู่
"ในฐานะผู้รักษาประตู คุณจะแตกต่างจากนักเตะในตำแหน่งอื่นๆ และมันก็มีเพียงเก้าอี้เดียวที่ให้เราแข่งกัน แต่ระหว่างผม ทอม (คุสซ์แซ็ก) และเบน (ฟอสเตอร์) เราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราต่างก็ทำงานของเรา และช่วยเหลือกันไป เราพยายามจะเรียนรู้จากกัน และกัน ผมยินดีเสมอที่จะได้ช่วยพวกเขา แน่นอนเลย ผมให้คำแนะนำ และเขาก็เรียนรู้จากผม แต่ผมก็สามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้เช่นกัน เขาอาจจะยังหนุ่ม แต่ก็ยังมีวิธีการที่แตกต่างกัน ผมมองพวกเขาแล้วก็คิดว่า "เฮ้ น่าสนใจแฮะ เราน่าจะลองดูบ้าง" คุณสามารถทำแบบนี้ได้กับผู้รักษาประตูทุกคน"
ฟังดูเหมือนกับว่า ถ้าเป็นไปได้ คุณก็อยากจะอยู่ต่อให้นานกว่าอีกหนึ่งฤดูกาลใช่ไหม
"ผมนับแบบปีต่อปี และปีนี้ก็เยี่ยมมากสำหรับผม ผมรู้สึกดี ผมได้รับบาดเจ็บบ้าง แล้วก็ถูกจ้องจับผิดนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งนั่นก็ช่วยเตือนให้เรารู้ว่าเรากำลังแก่ขึ้นเรื่อยๆ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีเรื่องไหนที่ผู้เล่นหนุ่มๆ จะไม่ได้รับแบบผมหรอก ผมจะคอยทบทวนอยู่เสมอ แต่การคว้าถ้วยมาได้นั้น มันทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเด็กลง มันทำให้คุณอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ"