ในการสัมภาษณ์พิเศษครั้งที่สองของผู้รักษาประตู เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หนุ่มดัทช์ผู้นี้ได้กล่าวชื่นชมฝีไม้ลายมือของเพื่อนร่วมทีมที่ได้วาดลวดลายมาตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นถึงสปิริตอันแข็งแกร่งของปีศาจแดงได้เป็นอย่างดี
นักเตะคนไหนที่คุณโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนฯ ยูไนเต็ด
"ผมโหวตให้ คริสเตียโน่ (โรนัลโด้) และเขาก็เหมาะสมมาก เขาเก็บเกี่ยวฤดูกาลที่วิเศษสุดเอาไว้ ทำประตูได้อย่างมหาศาลในฐานะมิดฟิลด์ และเป็นประตูสำคัญหลายๆ ประตูด้วย แล้วอย่างนี้จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ หรือถ้าไม่ใช่โรนัลโด้ ก็คงต้องตกไปอยู่ที่ ริโอ (เฟอร์ดินานด์) หรือไม่ก็ วีด้า (นามานย่า วิดิช) พวกเขาเล่นให้ทีมได้ดีมากในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะริโอ และในเกมรับของเราเราก็ทำได้ดีมาก ทั้งเวส (บราวน์) ก็ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ โดยร่วมมือกันกับแบ็คขวาอย่างแกรี่ (เนวิลล์) และ ปาทริซ (เอฟร่า) ในตำแหน่งแบ็คซ้าย ถ้าผมโหวตได้ซัก 5 คน ผมก็คงโหวตให้พวกเขาหมดเลย พวกเขามหัศจรรย์จริงๆ"
การเสียประตูเพียง 22 ประตูในฤดูกาลนี้ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก นั่นคงทำให้คุณภูมิใจมากใช่มั๊ย
"สถิติการป้องกันประตูนั้นมันจะไม่สำคัญเลย จนกว่าคุณจะเอาชนะอะไรสักอย่างได้ในที่สุด สองปีที่ผมอยู่กับยูเวนตุส สถิติการป้องกันประตูของเราดีที่สุดในซีรี่ เอ แต่เราก็ไม่ชนะแชมป์ลีกหรืออะไรเลย มันก็เลยไม่มีความหมายเลยสักนิด ถ้าเราพลาดการคว้าแชมป์ในวันสุดท้าย สถิติของเราก็คงไม่สำคัญมากถึงขนาดนี้และผมก็คงไม่ได้มาฉลองชัย แต่เมื่อถ้วยมาถึงมือคุณแล้ว มันก็คือความพิเศษสุดๆ เรามีทีม (ทีมป้องกัน) ที่มีประสิทธิภาพมาก และในช่วงแปดเดือนแรกของฤดูกาลเราก็ไม่ค่อยได้เปลี่ยนตัว 4 ผู้เล่นกองหลังเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็น เวส, ริโอ, วีด้า, ปาทริซ ยิ่งคุณได้ลงเล่นมากเท่าไหร่ คุณก็จะคุ้นเคยมากขึ้นเท่านั้น"
การที่กองหลังทั้ง 4 ไม่ค่อยถูกเปลี่ยนตัวมากนักในตลอดฤดูกาลนั้น มันมีความสำคัญอย่างไร
"ความเข้าใจเกมก็จะมีมากขึ้นตลอดเวลา และถึงแม้บางทีเราจะต้องเปลี่ยน และพวกเขาก็ต้องไปนั่งเจ็บอยู่ข้างสนาม นักเตะคนอื่นๆ ที่เปลี่ยนตัวเข้ามา อย่าง จอห์น โอเชีย, โอเว่น (ฮาร์กรีฟส์), เจอร์ราด (ปีเก้), และ มิคาเอล (ซิลแวสตร์) ทุกคนเล่นให้ทีมได้ดีมาก สโมสรของเราปกติแล้วจะเน้นเกมรุก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราโด่งดังมาได้ แต่ในฤดูกาลนี้เรามีทีมรับที่ช่วยเราอย่างหนักในเกมสำคัญๆ ให้เราเอาชนะมาได้ คุณอาจจะไม่ได้ลงสนามและเล่นโชว์ฟอร์มน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอไปเพราะบางครั้งมันก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายตรงข้ามด้วย เกมกับบาร์เซโลน่าก็เป็นอย่างนั้น เราเล่นตามแบบของเราเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่เราใฝ่ฝัน แผงหลังของเราทำได้ดีมากในฤดูกาลนี้ แต่นั่นก็เป็นเพราะทุกๆ คนในทีมต่างก็ทำงานหนักเพื่อช่วยกันทั้งสิ้น นอกจากนั้นแล้ว การที่กองหน้าทำประตูได้ก็เป็นผลมาจากการวางรากฐานที่ดีในเกมรับด้วย เพราะนี่คือการเล่นเป็นทีม และนี่คือทีมที่เยี่ยมยอด"
คุณจะบอกว่าแมนฯ ยูไนเต็ดเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมไปจนถึงเกมรุก...
"ทีมบุกของเรายิงประตูได้เยอะมาก และสร้างความวุ่นวายให้กับคู่ต่อสู้ด้วย ดูแค่ประตูของ วาซซ่า (เวย์น รูนี่ย์) และ คาร์ลอส (เตเวซ) ก็รู้แล้ว แต่ตำแหน่งมิดฟิลด์ก็ใช่ย่อย ผู้จัดการทีมมีหลากหลายตัวเลือก และเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้เหมาะสมกับคู่ต่อสู้ ซึ่งพวกเขาก็เล่นได้ดีมาก สโคลซี่ หายไปจากเกมหลายเดือน แต่นักเตะคนอื่นๆ อย่าง แอนเดอร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก และโอเว่น ก็เข้ามาเติมเต็มได้ มีนักเตะเก่งๆ เยอะเลย และในเกมที่พวกเขาต้องลงมาช่วยตั้งรับ พวกเขาก็ช่วยอย่างเต็มที่ เราตั้งรับและบุกกันอย่างเป็นทีม ตลอดฤดูกาลเราต่างก็ต่อสู้เพื่อกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมที่ต้องยิงประตู หรือเกมที่ต้องป้องกันไม่ให้เสียประตู"
เป็นอีกครั้งแล้วที่แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บประตูได้ในช่วงท้ายเกม ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงตามเก็บแต้มเอาใกล้จบเกมล่ะ
"ใน แมนฯ ยูไนเต็ด คุณจะถูกคาดหวังว่าต้องชนะ ถ้าเป็นอย่างอื่นไปล่ะก็ มันก็จะเป็นผลลัพธ์ที่แย่เอามากๆ เลย ทั้งสโมสรของเราจะตั้งเป้าไว้ที่ชัยชนะเท่านั้น ไม่ใช่แค่ทีมนักเตะ แต่ทีมงานและแฟนๆ - ทุกคนต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องกันหมด อย่ายอมแพ้ นี่แหละคือทัศนคติของเรา มันช่วยให้เราเก็บแต้มได้ และช่วยให้ชนะมาได้หลายต่อหลายครั้ง เมื่อคุณเห็นว่าเราประสบความสำเร็จ คุณจะจดจำมัน และจะรู้สึกว่า อะไรๆ ก็เป็นไปได้"
มันเกี่ยวข้องกับสปิริตความเป็นทีมไหม?
"ใช่ สปิริตของทีมก็สำคัญ อย่างที่สโมสรนี้ เราพยายามจะเล่นฟุตบอลอย่างเหมาะสม เราจะคิดอยู่เสมอว่า เราเป็นทีม และเราจะก้าวไปพร้อมกัน บางครั้งคุณลงเล่น และมันก็ไม่ได้ออกมาดีเสมอไป - ผู้รักษาประตูของคู่ต่อสู้ทำได้เยี่ยมมาก หรือไม่คุณก็ทำพลาด แต่คุณก็ต้องเล่นต่อไป เพื่อเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดหมดเวลา"
ผู้เล่นหลายคนยืนยันว่าสปิริตของทีมในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้นดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยรู้จักมา
"มันเยี่ยมยอด มีทั้งนักเตะที่มีประสบการณ์ร่วมอยู่ในกลุ่มซึ่งอายุ 26 หรือ 27 แล้วก็ยังมีนักเตะหนุ่มชาวต่างชาติมาร่วมทีม อย่างแอนเดอร์สัน และนานี่ ทุกคนเข้ากันได้ดีและต่างก็คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสโมสร ทั้งเรื่องนอกสนามด้วย ทุกคนต่างก็ยินดีที่จะช่วยเหลือกันและกัน ถ้ามีใครอยากรู้จักร้านอาหารอร่อยๆ เราก็จะบอกว่าควรไปที่ไหน หรือร้านไหน อะไรก็ตามที่เราพอจะช่วยกันได้ เราก็ทำ แล้วพอมาถึงในเกม เราก็แลกเปลี่ยนความเห็นที่มีต่อผู้เล่นคนอื่นๆ กัน เราอยากทำงานเพื่อกันและกัน - ผมว่า นั่นเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จเลยล่ะ"