
ด้วยวัย 24 ปี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กล่าวกับ สจ๊วร์ต การ์ดเนอร์ ของ MUTV เมื่อไม่นานมานี้ว่า ถึงแม้จะได้รับชื่อเสียงเกียรติยศต่างๆ มามากมาย แต่ความทะเยอะทะยานของเขายังคงลุกโชติช่วง
คุณเอาชนะทุกอย่างไปแล้วเมื่อปี 2008... คุณทำอย่างไรเพื่อคว้าให้ได้อีกในปี 2009?
"ผมคุยกับนักเตะที่มีประสบการณ์มากๆ บางคนที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ในการลงแข่งขัน และพวกเขาก็บอกว่า มันไม่ใช่สิ่งที่คุณทำในฤดูกาลเดียว มันคือการครองตำแหน่งท็อปเอาไว้ให้ได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ท้าทาย ผมต้องดำเนินมันต่อไปอย่างนั้นแหละ ถ้าไม่เล่นแบบนั้น ผมรู้ว่าคนเขาก็จะเริ่มวิจารณ์ผม และผมก็ไม่ต้องการแบบนั้น ผมเป็นนักเตะที่มีความทะเยอทะยานสูง อยากเอาชนะให้ได้มากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก"
คุณทำให้การยิงประตูได้เพียงสองสามประตูในช่วงฤดูกาลแรกๆ นั้น กลายเป็น 42 ประตูในที่สุดได้ยังไง?
"ตอนผมมาถึงเมื่ออายุ 18 ผมเป็นนักเตะที่เก่ง แต่ไม่ใช่ในการตัดสินใจ อย่างเช่นผมควรจะผ่านลูกหรือเลี้ยงลูก การคว้าแชมป์ต่างๆ และการอยู่ที่สโมสรนี้ มันทำให้คุณได้เติบโตอย่างเต็มที่ และผมก็ได้เรียนรู้มากมาย เมื่อคุณเล่นโดยมีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมอยู่รอบตัวคุณ คุณจะเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ผมก็เลยพัฒนาขึ้นทุกฤดูกาล และเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ผมยังอยากได้อีก ฤดูกาลนี้ผมอยากจะทำประตูให้ได้จำนวนเท่ากัน หรือมากกว่านั้นถ้ามันเป็นไปได้ ผมรู้ว่ามันคงยากแต่ในหัวผมก็คิดอยู่แล้วว่ามันเป็นไปได้"
ประตูไหนที่คุณประทับใจที่สุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว?
"ตอบยากนะ แต่มีอยู่สองสามประตู ลูกโหม่งที่โรม ลูกฟรีคิกที่เตะกับปอร์ทสมัธ แล้วก็ลูกยิงแอสตัน วิลล่า ผมเลือกสามประตูนี้ก็แล้วกัน"
เคล็ดลับในการเตะฟรีคิกของคุณคืออะไร?
"มีคนถามหลายคนเหมือนกัน แต่มันไม่มีเคล็ดลับหรอกครับ มันแค่เป็นสไตล์ในการยิงของผม แต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเอง ผมชอบเตะเต็มๆ เท้า บอลลอยไปในอากาศ แล้วก็เท่านั้นแหละ ตอบตามตรงเลยนะ มันไม่มีกลยุทธ์ ไม่มีเคล็ดลับอะไร การซ้อมน่ะช่วยได้ดี แน่นอนเลย ถ้าคุณอยากจะทำงานของคุณใด้ได้ดี คุณก็ต้องตั้งใจทำ และฝึกให้มากเข้าไว้"
แล้วคุณก็ทำแฮททริคแรกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมที่เตะกับนิวคาสเซิล
"มันพิเศษมากเลยครับ ผมยิงได้สองประตูมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยยิงประตูที่สามได้เลย แล้วแม่ผมก็เริ่มพูดกับผมว่า "คริสเตียโน่ ทำไมลูกไม่เคยยิงสามประตูเลยล่ะ?!" ผมก็เลยต้องอธิบายว่า "แม่ บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้น่ะ" แต่แม่ก็บอกว่า "อ้อ แต่ลูกก็ต้องยิงสามประตูให้ได้ซักครั้งนะ!" ดังนั้นตอนที่ผมทำได้ ผมก็นึกถึงแม่ขึ้นมาทันทีเลย การทำแฮททริคเป็นครั้งแรกทำให้วันนั้นเป็นวันที่ยอดเยี่ยม และการทำได้ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้นก็สร้างช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด"
คุณรู้สึกกระวนกระวายหรือเปล่าตอนที่ต้องเตะลูกโทษในเกมรอบชิงของลีก?
"เอ่อ มันก็กดดันอยู่นิดหน่อย เพราะถ้าเราเอาชนะไม่ได้ เชลซีก็อาจจะคว้าถ้วยไปครอง ผมเลยพูดกับตัวเองว่า "คริสเตียโน่ นายต้องยิงประตูนี้ให้ได้ เพราะถ้านายทำสำเร็จ เราอาจจะชนะลีกก็ได้นะ" แล้วผมก็เลยยิงประตูได้ เรานำไปก่อน 1-0 แล้วกิ๊กซี่ก็เข้ามายิงประตูที่สอง แล้วแฟนๆ ก็เริ่มเชื่อมั่นแล้วว่าเราจะคว้าแชมป์ได้"
คุณจัดการกับแรงกดดันในการเป็นนักเตะที่โด่งดังนี้อย่างไร?
"เวลาที่คนบอกว่าเขาชอบคุณเพราะชอบการเล่นของคุณ หรือหน้าตาของคุณ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้มากนัก มันก็ดีเสมอแหละครับ เหมือนอย่างในสนามที่ญี่ปุ่น พอคุณแตะบอลได้คนก็กรี๊ดน่ะ ผมชอบมากๆ เลยแล้วก็ชื่นชมมันด้วย ผมมีโอกาสที่จะได้กล่าวขอบคุณกับทุกๆ คนที่คอยสนับสนุนผม เพราะมันทำให้ผมเกิดแรงผลักดันให้เอาชนะเพิ่มขึ้นอีกในตอนนี้ และในอนาคตด้วย"
คุณออกไปใช้ชีวิตตามปกติในเมืองแมนเชสเตอร์ได้ไหม?
"มันก็ยากสักหน่อย แต่ผมก็รู้สึกว่า แมนเชสเตอร์ คือบ้านผม ผมมาอยู่นี่ตั้งแต่ 18 ผมชอบอยู่ที่นี่และครอบครัวผมก็ชอบที่จะมาเยี่ยมผมด้วย เรื่องแย่อย่างเดียวก็คือไม่มีเครื่องบินที่ตรงมาจาก Madeira! แต่แม่กับน้องสาวผมก็ยังชอบมาเยี่ยม มันเป็นเมืองที่สวย ผู้คนก็ดี พวกเขาดีกับผมเสมอ ไม่มีใครสร้างปัญหาอะไรให้ผมเลย ชีวิตผมเลยวิเศษสุดๆ"
เสียงโห่ในเกมที่ไปเล่นเป็นทีมเยือนนั้นสร้างความลำบากใจให้คุณหรือเปล่า?
"ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเฉยๆ เพราะถ้ามันไม่มีเสียงโห่เลย ผมก็จะคิดว่า "ทำไมไม่โห่ผมล่ะ?" บางทีพวกเขาอาจคิดว่า ถ้าโห่ ผมจะเสียสมาธิ แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะผมชอบนะ!"
มีคนบอกว่าคุณยังไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ มันเปลี่ยนไปบ้างไหม?
"ผู้ตัดสินต้องทำงานหนักมาก และผมก็นับถือพวกเขา แต่บางครั้งผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าคุณอยากเล่นให้ดีในลีกและอยากเล่นเกมเร็ว คุณก็ต้องปกป้องนักเตะที่มีทักษะการเล่นดีๆ ไว้ เพราะพวกเขาเป็นคนที่จะสร้างความน่าสนใจได้ และนั่นก็คือสิ่งที่แฟนๆ ต้องการ แต่ก็มีผู้ตัดสินที่ดีอยู่ในพรีเมียร์ลีก บ้างเหมือนกัน"
มันสำคัญแค่ไหนที่ต้องสร้างความบันเทิงในสนาม?
"ผมชอบเวลาที่คนมาดูการแข่งแล้วได้เห็นช่วงเวลาดีๆ ทริคสวยๆ แต่คุณก็ต้องทำมันเพื่อทีม คุณไม่สามารถทำได้ดีในทุกๆ เกม และทุกคนก็ควรจะเข้าใจด้วย"
ใครคือเพื่อนที่สนิทที่สุดในสโมสร?
"ผมมักจะคุยกับคนที่พูดโปรตุเกสบ่อยๆ อย่าง นานี่ แอนเดอร์สัน มานูโช่ แต่ก็บอกได้ว่าสนิทกับทุกคน คาร์ลอส แพท ริโอ วีด้า เอ็ดวิน ... ความเป็นทีมใน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นแข็งแกร่งมาก และบางครั้งก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มันคือการอยู่ร่วมกัน คุณเล่นมุขตลกกับใครก็ได้ ผมว่านั่นแหละทำให้ทีมเราไปได้สวย ทำให้เราเอาชนะอะไรหลายๆ อย่างได้"