
การกลับมาของ คาร์ลอส คีรอซ และการมาของ วอลเตอร์ ดิ ซัลโว ทำให้บทบาทของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
คาร์ลอส เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมและผมเองก็เป็นโค้ชของทีมชุดใหญ่ เราพูดคุยกันหลายๆ เรื่อง และเช่นกันเราก็พูดคุยกับ วอลเตอร์ ดิ ซัลโว ด้วย คาร์ลอส มีวิธีในการฝึกซ้อมของเขาเอง และผมก็มีวิธีของผม แต่เราก็ทำงานด้วยกันได้โดยดูว่าใคร มีตำแหน่งอะไร ถ้าเราต้องการแบ่งกลุ่มฝึกซ้อมเราก็จะแบ่งกลุ่ม และเราจะจัดพื้นที่ให้พวกเขา แต่โดยหลักๆ แล้ว คาร์ลอส คือคนที่วางแผนทุกๆ อย่าง และผู้จัดการทีมก็นั่งดูอยู่ด้านบน ดังนั้น ผู้จัดการก็จะเลือกตัวผู้เล่นจากสิ่งที่เขาเห็นในสนามซ้อม รวมทั้งได้รูปแบบการวางตัวนักเตะจากเรา เขาสามารถตัดสินได้จากตรงนั้นล่ะ
ในฐานะที่คุณเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อนและตอนนี้มาเป็นโค้ช การฝึกซ้อมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
รุปแบบการฟิตร่างกายเพื่อความสมบูรณ์ดูเหมือนจะมีการพัฒนามากขึ้นกว่าตอนที่ผมยังเด็ก ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญในจุดนี้มากกว่าสมัยก่อนมาก ทั้งการพักผ่อน อาหารที่กิน การฝึกซ้อม และรูปแบบการเตรียมเกมโดยรวม มันมีส่วนด้านเทคนิคมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับนักฟุตบอลและสิ่งที่เขาสามารถประยุกต์ใช้ได้เองนั่นล่ะ
แล้วทัศนะอีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับการหมุนเวียนนักเตะโดยทำให้นักเตะไม่ต้องลงเล่นทุกๆ สัปดาห์ล่ะ คุณเห็นว่าอย่างไร?
บางครั้งมันก็ยากที่จะจัดตัวผู้เล่นเมื่อทุกคนเป็นนักฟุตบอลและทุกคนก็อยากลงเล่น แต่ด้วยธรรมชาติของเกมแล้วคุณมีได้เพียง 11 ผู้เล่นเท่านั้น อย่างไรก็ดี คุณต้องแน่ใจว่านักเตะของคุณพร้อมและสมบูรณ์พอที่จะลงเล่น มันเป็นหน้าที่ของนักเตะที่ต้องพร้อมเสมอที่จะได้ลงเล่นเป็นส่วนหนึ่งในทีม และมันเป็นงานของเราที่ต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาพร้อม แล้วผู้จัดการทีมจะเป็นคนตัดสินใจเลือกทีมด้วยความคิดของเขาเอง และจากการปรึกษากับเรา ฟุตบอลเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการตัดสินใจทั้งนั้น ยิ่งคุณตัดสินใจถูกคุณก็ยิ่งทำได้ดี
คุณช่วยนักเตะให้อยู่ร่วมกันและช่วยด้านสปิริตของทีมอย่างไรบ้าง?
อืม...มันเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่อยู่ด้วยกันในช่วงเวลานานและต้องห่างจากครอบครัวเพื่อให้ความสนใจสำคัญมาอยู่ที่ฟุตบอลเท่านั้น ดังนั้นต้องพยายามสร้างให้มีบรรยากาศเหมือนกับครอบครัวในทีม เพราะเพื่อนร่วมทีมคือคนที่ใกล้ชิดกับคุณที่สุดในขณะนี้ นี่คือธรรมชาติในสโมสรและมันเป็นอะไรที่คุณต้องคุ้นเคยกับมัน
คุณอยู่กับสโมสรมากว่า 4 ปี แล้วในฐานะโค้ช อาชีพของคุณในตำแหน่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
การเป็นโค้ชเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใฝ่ฝันมาตลอด และผมโชคดีที่มีโอกาสได้ทำอย่างที่ต้องการ มีสโมสรไม่กี่สโมสรในประเทศนี้หรอก ที่จะให้โอกาสคุณทำงานในจุดที่ผมยืนอยู่นี้ มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก และมันเยี่ยมที่ได้พยายามมากขึ้นและปรับปรุงตัวเองในฐานะโค้ชมากขึ้น ผมเรียนรู้อยู่ตอลดเวลา ผมพยายามและสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับนักเตะเพื่อเป็นแรงจูงใจให้พวกเขา
จุดมุ่งหมายอย่างหนึ่งในตอนนี้ คือการพยายามลดอายุเฉลี่ยของนักเตะในทีมลง ดูเหมือนว่าจะไปได้ค่อนข้างดีในสโมสรในขณะนี้...
สโมสรนี้ผลิตนักเตะอายุน้อยที่มีพรสวรรค์เสมอ นั่นล่ะคือความสวยงามของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ความสามารถคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนสนใจ ผู้จัดการทีมมักจะให้โอกาสกับนักเตะอายุน้อยเสมอ และผมก็ไม่สงสัยเลยว่าสิ่งแบบนี้จะเกิดขึ้นต่อไป
ประวัติ ไมค์ ฟีแลน
เกิดวันที่ 24 กันยายน 1962 ที่ เนลสัน ประเทศอังกฤษ เริ่มอาชีพค้าแข้งในฐานะนักเตะฝึกหัดกับ เบิร์นลี่ย์ ในปี 1979 เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เติร์ฟ มัวร์ ในปี 1980 ย้ายไปร่วมทีม นอริช ในปี 1985 เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนกรกฎาคมปี 1989 ด้วยค่าตัว 750,000 ปอนด์ ในการลงเล่นนัดแรกของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ส.ค. 89) ทีมสามารถเอาชนะ อาร์เซนอล ได้ 4 1 ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1994 ด้วยการมีเหรียญติดมือไปอย่างล้นหลาม ทั้งลีกสูงสุดของประเทศ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ ลงเล่นให้กับทีมทั้งหมด 145 นัด ยิงได้ 3 ประตู ร่วมงานกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในปี 2000 ในฐานะโค้ชของทีมชุดใหญ่