หลังจากที่มารับงานเป็นผู้ช่วย รอน แอตคินสัน ในช่วงทศวรรษที่ 80 ปู่บราวน์ก็ได้รับหน้าที่ในสโมสรในฐานะหัวหน้าแมวมองในปี 1997 และกำลังจะวางมือจากงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานด้วยความทรงจำอันเป็นที่รักของทุกๆ คน
มิค บราวน์
คุณเสียใจบ้างหรือเปล่าเรื่องที่คุณจะออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด?
"ผมเศร้าใจมาก ผมมีเวลาที่ยอดเยี่ยมที่นี่จริงๆ ใน 2 เรื่อง ก็คือ ผมเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งที่นี่มา 14 ปี นั่นมันอาจจะยาวนานมากสำหรับชีวิตนักฟุตบอลคนหนึ่งเพราะว่า 14 ปี น่ะมันยาวนานเหลือเกิน มันเหมือนกับโรงงานดีๆ นี่เอง แต่ผมก็สนุกในทุกๆ นาทีกับมันนะ"
แล้วต่อไปล่ะ จะทำอะไร?
"เอ่อ...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบยังไง ผมได้คุยกับ 2-3 สโมสรอยู่ซึ่งพวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมคิดว่าเขาคงตระหนักดีเรื่องที่ต้องอาศัยประสบการณ์อันโชกโชนด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าข้อเสนออะไร ก็ใช่ว่าจะมาง่ายๆนะ คุณต้องมีผลงานเข้าตามาบ้าง ตอนนี้ผมนั้นมีพร้อมอยู่แล้วในเรื่องนี้ ผมจะทำมันอย่างสุดความสามารถ"
คุณต้องตั้งเวลาใหม่ในช่วงการเดินทางทางอากาศในช่วงหลายๆ ไมล์ ชีวิตการเป็นแมวมองมันเป็นเช่นนี้เหรอ?
"เส้นทางเป็นไมล์ๆ เหรอ มันก็โอเคนะ เมื่อทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี แต่เมื่อหลายคนมาถามผมในสิ่งที่ดูเหมือนว่าผมจะถามเขากลับไปเสมอๆ เมื่อเที่ยวบินต้องล่าช้าออกไปในวันหยุดสุดสัปดาห์แท้ๆ คุณจะรู้สึกอย่างไรล่ะ? คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณกำลังแบกสัมภาระอันหนักอึ้งก็เป็นได้ หรือบางทีถ้าคุณว่ามันเกิดขึ้นสัก 2-3 ครั้ง ในแต่ละสัปดาห์ หรืออาจจะมากกว่านั้นตลอด 11 เดือน หนทางมันก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบแล้วนะคุณ คุณกำลังบินไปปารีส และแล้วเที่ยวบินของคุณถูกยกเลิกที่เยอรมัน คุณก็อาจจะต้องจ้างรถยนต์ไปที่นั่นแทน มันก็เป็นเพียงแค่ความกดดันอย่างหนึ่ง นี่ผมไม่ได้มาบ่นนะ มันได้ง่ายอย่างที่คุณคิดเลย"
แมวมองอย่างคุณต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้างในโอลด์ แทรฟฟอร์ด?
"คุณต้องไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอๆ แต่มันต้องเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ นะ มันต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เราได้พบปะผู้คนมากมายเมื่อได้เข้ามาฝั่งยุโรปซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีของเรา ทั้งศูนย์เยาวชนและเรื่องของนักเตะอาชีพ เรามองหาทัวร์นาเมนต์อายุต่ำกว่า 14 , 15, 16 ปี อยู่ตอนนี้ และเราก็มีคนมากมายที่อยู่ที่นั่นซึ่งจะทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่าใครสามารถเป็นผู้เล่นที่ดีได้ แต่ก็มีเรื่องแย่ๆ หลายอย่างมากมายที่เราสามารถบรรลุมันไปได้"
คุณเคยได้เจอใครที่มีบุคลิกเหมือนกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บ้างไหม?
"ผมมาอยู่ที่นี่นานมาก และก็เคยเจอกับผู้คนมากมายหลายแบบ ที่ดีที่สุดก็คือการได้เจอกับพวกที่ไม่เหมือนกันเลย คุณอาจจะเป็นอย่าง มัลคอล์ม อัลลิสัน ในทันที หรืออย่าง แชงค์ลี่ย์, เฟแกนส์ หรือคนอื่นๆ คุณจะเป็นคนหรูหราหรือพวกเผด็จการหรืออะไรก็ได้ที่คุณจะเป็น ผู้ฝึกสอนบางคน ผมก็ชื่นชอบที่จะร่วมงานด้วยเหมือนกัน ผมทำงานเป็นผู้ฝึกสอนในยุคที่ ดอน ฮาวย์ เป็นผู้ฝึกสอนให้กับอาร์เซน่อล และทีมชาติอังกฤษ คุณยังต้องโชว์กึ๋นของคุณต่อหน้าผู้คนในทุกๆ สัปดาห์ พวกเขาเป็นบุคคลชั้นยอดทั้งนั้น แต่จะมีแบบเซอร์ อเล็กซ์ หรือเปล่าน่ะหรือ? คงไม่หรอกเขาเป็นในอีกแบบฉบับหนึ่งที่ต่างจากคนอื่นๆ เป็นกัน"
เขาชอบที่จะทำงานกับอะไรหรือ?
"ผมไม่มีอะไรเลย จะมีแต่ก็ประสบการณ์อันมีค่าให้กับเขาเท่านั้น จากวันหนึ่งๆ เขาให้งานผมไม่หยุดหย่อนเลย ถ้าผมไม่รำคาญเขาก่อนผมก็จะทำ ผมจะไปเคาะประตูหน้าห้องของเขา แต่ผมก็จะมีคำตอบให้เขาภายใน 30 วินาที บางครั้งเมื่อผมออกมาจากประตูแล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยไปสักระยะ ถ้าเขาเข้ามาและต้องการข้อมูล ผมก็ยินดีที่จะแบ่งให้เขาไป การพูดจาโดยทั่วไป เขาจำเป็นต้องให้ใครบางคนสามารถทำงานต่อไปได้เมื่อเขาไม่อยู่ ดังนั้นคุณจะอาจคาดหวังว่าสถานการณ์จะถูกสร้างขึ้นมาบ้าง ถ้าไม่งั้นเขาก็ไม่ลำบากนักหรอกที่จะมาบอกผมเอง"
ความกดดันที่เคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลกระทบอย่างไรบ้าง?
"ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณก็จะติดอยู่กับที่นี่เท่านั้น ไม่สำคัญหรอกที่คุณจะต้องเป็นใครหรือว่าคุณจะอยู่ที่ไหน สิ่งต้องทำคือไปไหนมาไหนพร้อมกับผู้จัดการทีมอย่างใกล้ชิด คุณจะทำให้คนคนนั้นไว้ใจคุณ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนใจแข็งก็ตามที มันมีผลกระทบต่อการแสดงออกของเขา และเขาก็ใช่ว่าจะแสดงออกเพียงครั้งเดียว"
คุณเสียใจบ้างไหมที่เป้าหมายหลุดลอยไป?
"ผมใช้เวลามากในการติดต่อ โรนัลดินโญ่ อย่างที่ผมทำกับ กาเบรียล ไฮน์เซ่ นั่นแหละ สิ่งที่ตามมาก็คือเขาเป็นนักเตะคนเดียวที่มีผลกระทบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่าคนอื่นๆ เราจำเป็นที่จะต้องได้เขามา เรายื่นข้อเสมอไปมากมาย ส่วนสต๊าฟคนอื่นๆ ก็ออกไปดูฟอร์มหลายต่อหลายครั้ง นั่นก็เป็นกรณีหนึ่งในหลายๆ ครั้ง ที่เรารู้สึกอย่างนั้นแล้วเราก็ไม่ได้สานมันต่อ สุดท้ายเราก็ไม่ได้ซื้อเขามาร่วมทีม"
มีใครสามารถทดแทน รอย คีน ได้บ้างหรือยัง?
"ผมคิดว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับเรา และเขาเป็นนักเตะที่เราต้องการ แต่ถ้าคุณมัวแต่ยึกยักอยู่ล่ะก็ เขาจะต่อต้านคุณทันที อีกทั้งเขาก็ยังเป็นคู่แข่งคุณอีกต่างหาก แต่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้สักหน่อย เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็กล่าวถึงกรณีของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ รวมถึง อลัน สมิธ ด้วย ผมคิดว่าประตูยังคงเปิดกว้างอยู่ ดังนั้นผมก็ยังไม่ได้บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถึงมันจะยากมากก็ตามที อีกสิ่งหนึ่งก็คือ รอย คีน ก็คือ รอย คีน คงไม่มีรอย คีน อีกคนแน่ๆ ลืมมันไปซะเถอะ หากคุณจะหารอย คีน อีกคน คุณไม่มีทางเจอมันหรอก เพราะโอกาสที่จะเป็นไปได้มันน้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก กว่าจะได้ผู้เล่นระดับคุณภาพสักคน อาจจะมีสักหนึ่งคนหรือสองคนแต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าสโมสรจะเข้าไปหาในตลาดซื้อขายนักเตะได้บ้างหรือเปล่า มันก็ไม่แน่นอนเท่าไรหรอก แต่เราอยู่ในช่วงที่อาจจะต้องสูญเสียนักเตะไปสัก 2 คนเพียงเพราะว่าเราไม่ได้เข้าไปดูในตลาดซื้อขายนักเตะ ซึ่งนั่นก็เป็นหนทางหนึ่งในโลกนี้เลยล่ะ"
สโมสรเซ็นสัญญา เวย์น รูนี่ย์ โดยจ่ายเงินงวดแรกไปแล้วหรือยัง?
"ผมไม่คิดหรอกนะว่าจะมีใครจะมาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่ระดับคุณภาพมากคนหนึ่งเลยล่ะ"
สภาพร่างกายเขาเป็นอย่างไรบ้าง?
"มันน่ากลัวจริงๆ นะ ผมคิดถึงเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเขาตั้งแต่เขาย้ายมาที่นี่พร้อมกับความปรารถนาอันแรงกล้า เขาได้รับรางวัลเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกม และสามารถเป็นมิดฟิลด์ทางฝั่งขวาได้ในบางครั้ง นั่นคือสิ่งที่เราได้เห็นในเกมกับอาร์เซน่อล เขาวิ่งป่วนกองหลังได้ตลอดจนกระทั่งจบการแข่งขัน ซึ่งมีคนไม่มากเท่าไหร่หรอกที่ทำเช่นนั้นได้ เขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่สุดมหัศจรรย์สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ"
ใครคือผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่คุณเคยได้พบเจอมา?
"ไบรอัน ร็อบสัน และ คีน คือนักเตะในดวงใจของผม แต่นักเตะที่มีทักษะมากที่สุดที่ผมได้เคยสัมผัสมาก็ต้อง อาร์โนลด์ มูห์เรน เขาคล้ายกับ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน มาก คุณคิดว่าคุณอาจจะเป่าเขาให้กระเด็นไปได้แต่คุณก็ไม่มีทางที่จะได้เห็นบอลหลุดจากเท้าของเขาไปหรอก เขาวิ่งไล่บอลตลอดและเป็นคนตลก ตลกแบบหน้าตายด้วย และสิ่งที่ดูมหัศจรรย์สำหรับอาร์โนลด์ ก็คือเขาเริ่มต้นอาชีพที่ยอดเยี่ยมกับ อิปสวิช ทาวน์ จากนั้นก็ย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขาก็กลับไปเล่นฟุตบอลที่ฮอลแลนด์ เพื่อโอกาสในการติดทีมชาติ อาร์โนลด์ เป็นกัปตันทีมเมื่ออายุได้ 38 ปี และนั่นก็เป็นเทสติโมเนี่ยล ที่ดีที่สุดที่ผมจะทำให้ได้กับใครสักคนหนึ่ง"
แล้ว เวรอน ดีพอหรือเปล่า?
"เขาเป็นจอมเทคนิค และสามารถทำอะไรบางอย่างให้ดูในระหว่างการฝึกซ้อมที่เราไม่สามารถเห็นได้กับนักเตะคนอื่นๆ เขายิงไกลได้ มันเป็นอะไรที่เขาถนัดอยู่แล้ว ด้วยข้างเท้าด้านนอกบอลจะพุ่งผ่านหลายต่อหลายคนไประยะ 40-50 หลา การเปิดบอลของเขาแตกต่างจาก เดวิด เบ็คแฮม โดยสิ้นเชิง ขณะที่ พอล สโคลส์ เขาสามารถผูกผ้าปิดตาแล้วเล่นชิงบอลได้ด้วย เขารู้ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เขาขจัดปัญหาการเล่นฟุตบอลของเขาได้หมด ซึ่งเขาเป็นอะไรที่เราอยากจะเรียกว่า ยอดนักเตะ"
