
ใน Inside United ฉบับก่อนหน้านี้ ไบรอัน แม็คแคลร์ ผู้จัดการศูนย์ฝึกเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้พูดถึงเป้าหมายของระบบการพัฒนานักเตะเยาวชน นั่นก็คือการสร้างผู้เล่นให้กลายมาเป็นนักเตะชุดใหญ่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรืออย่างน้อยก็ได้ไปค้าแข้งกับสโมสรอื่น...
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับระบบพัฒนานักเตะเยาวชนที่ประสบความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะนี้?
ถือว่าเราเป็นทีมพัฒนานักเตะเยาวชนรุ่นที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ย้ายจากสก็อตแลนด์เข้ามาที่นี่ เขาได้สานต่อนโยบายนี้มาจาก เซอร์ แมตต์ บัสบี้ และ จิมมี่ เมอร์ฟี่ ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าการปั้นนักเตะอายุน้อยขึ้นมาใช้งานนั้นเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน เซอร์ อเล็กซ์ ประสบความสำเร็จกับตรงนี้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เราเองก็ปลื้มใจไปด้วย เขาน่าจะเป็นคนที่พูดถึงสิ่งนี้ได้ดีที่สุด มีนักเตะหลายคนที่ได้ก้าวขึ้นมาจากระบบนี้ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้ก็มีหลายคนเลยที่ยังค้าแข้งอยู่ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเราได้มอบโอกาสตรงนี้ให้กับพวกเขาเหล่านั้นไม่แพ้สโมสรอื่นๆ ในแง่ของจำนวนนักเตะที่เราได้สร้างขึ้นมา
สิ่งที่สำคัญก็คือการสร้างนักเตะสักคนขึ้นมาจากระบบเยาวชนจนก้าวขึ้นมายึดอาชีพค้าแข้งได้ ไม่ว่าจะเป็นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือไม่ก็ตามใช่หรือเปล่า?
ถูกต้อง เมื่อคุณมองไปยังเด็กในท้องถิ่นอายุสัก 6-7 ขวบ และเซ็นสัญญากับพวกเขาเมื่ออายุได้ 8 ขวบ คุณก็จำเป็นจะต้องมอบความมั่นใจนั้นให้กับผู้ปกครองของพวกเด็กๆ ด้วยว่าจะพยายามสร้างเขาให้เป็นนักเตะอาชีพให้ได้ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ามันจะเป็นไปได้จริงหรือเปล่าด้วยอายุเพียงเท่านั้น หนทางมันยังอีกยาวไกลเหลือเกิน แต่อย่างน้อยเราก็ทราบดีว่าที่นี่มีระบบพัฒนาเยาวชนที่ดี มีคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายหลายคน หากว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว และทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผมรับรองได้เลยว่าพวกเขาจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพแน่นอน ทุกๆ คนต่างก็มาจากระบบแบบเดียวกันนี้ทั้งนั้น
คุณเห็นด้วยกับพอล แม็คกินเนสส์ หรือเปล่าที่บอกว่าความสนุกสนานเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นในการพัฒนานักเตะสักคนขึ้นมา?
ความสนุกสนานเป็นคำพูดที่ฟังแล้วดูดี ทุกๆ คนควรต้องมีความสนุกสนานกันอยู่แล้วในการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ และการคว้าชัยชนะก็เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมา นี่คือเกมกีฬา และส่วนหนึ่งของมันก็ต้องเป็นความสนุกสนานอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับตัวผม ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุแค่ 5 ขวบ หรือว่าก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่แล้วก็ตาม ทุกๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมทั้งสต๊าฟฟ์โค้ช รวมไปถึงนักเตะต่างก็ต้องมีสิ่งนี้อยู่ในตัว มันจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คุณสามารถสนุกไปกับมันได้หากว่าคุณรักฟุตบอล ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ก็ตาม มันไม่มีอะไรที่จะเทียบได้เลยกับการลงไปลงเล่นด้วยตัวเอง
นักเตะบางคนดูจะก้าวขึ้นมาได้ช้าขึ้นในตอนนี้ คุณว่าเกมมันเปลี่ยนไปแล้วหรือเปล่า?
นักเตะในทีมทุกวันนี้ต่างก็เล่นได้อย่างยาวนานขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไรอัน กิ๊กส์ และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ พวกเขาเล่นได้นานขึ้น และขุมกำลังของทีมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ กับสโมสรแห่งนี้ คุณอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีกว่าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว
เมื่อมองไปยังทีมชุดคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 มีนักเตะหลายคนที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นเป็นอย่างมาก คุณว่าจริงไหม?
มีอยู่ 2 สิ่งที่เรากำลังพยายามทำกันอยู่ในตอนนี้ หนึ่งก็คือพยายามสร้างนักเตะขึ้นมาป้อนให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเป็นเป้าหมายหลักอยู่แล้ว เราต้องการพัฒนาพวกเขาในแง่ของพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย อย่างที่สองคือเราต้องมั่นใจว่าพวกเขายังคงพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงอายุ หากว่าพวกเขามีความตั้งใจจริง พวกเขาก็จะสามารถยึดมันเป็นอาชีพได้ แม้บางคนจะไม่สามารถขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของที่นี่ได้ พวกเขาก็ยังคงสามารถมีชีวิตที่ดีกับการค้าแข้งให้กับสโมสรอื่นๆ สิ่งเหล่านี้มันทำให้คุณพึงพอใจได้ด้วยเช่นเดียวกัน เราทุกคนต่างก็เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ตัวนักเตะเองนั่นแหละที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของพวกเขาเอง ไม่มีใครหรอกที่จะสร้างนักเตะสักคนขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง แต่ที่คุณทำได้ก็คือการปูเส้นทางให้พวกเขาได้เดินไปยังจุดหมายนั่นเอง
คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรายการใหม่ของทีมยู-19 อย่างยูฟ่า ยูธ ลีก?
เป็นรายการที่ดีเลยนะ อย่างระบบการแบ่งอายุที่ผมคิดว่าเราน่าจะนำมาพิจารณาใช้บ้างที่อังกฤษ การเปลี่ยนมาตัดอายุจากวันเกิดเมื่อถึงเดือนมกราคม (แทนที่จะตัดเอาในช่วงซัมเมอร์) ตอนนี้เรามีทีมอยู่ 2 ชุดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมชุดยู-21 ของ วาร์เรน จอยซ์ และทีมชุดยู-18 ของ พอล แม็คกินเนสส์ บางทีคุณอาจจะเห็นสโมสรอื่นๆ มีกลุ่มที่ใช้เตะยูธ ลีกซึ่งทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลาสำหรับยูฟ่า ยูธ ลีก ส่วนทีมของเรา (ภายใต้การคุมทีมของ นิคกี้ บัตต์) จะทำงานร่วมกันเป็นบางเวลาเท่านั้น อาจจะไม่ได้อยู่ร่วมกันแบบต่อเนื่องเท่าไหร่นัก
ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกว่าสนับสนุนให้มีการแข่งขันกันที่สนามซ้อมแห่งเดียวไปเลย ซึ่งทุกทีมจะได้เดินทางมาเจอซึ่งกันและกัน ตอนนี้คุณยังคิดอย่างนั้นอยู่หรือเปล่า?
มันก็มาจากการถกเถียงกันว่าโปรแกรมการแข่งขันควรออกมาเป็นอย่างไรนั่นแหละ มันจำเป็นหรือเปล่าว่าจะต้องเป็นการเตะแบบ 11 ทีมมาเจอกันหมดตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม? ไม่มีใครยอมนั่งถกเถียงกันอย่างยาวนานเกี่ยวกับประเด็นสิ่งที่นักเตะต้องการหรอก เราจำเป็นต้องมีใครสักคนที่มีแนวความคิดแบบเดียวกันและคลุกคลีอยู่กับพวกเขามานั่งคุยด้วย เราเองก็ไม่ใช่ว่าจะรู้ทุกอย่างหรอก เราต่างก็พยายามมองหาสิ่งดีๆ ให้กับวงการฟุตบอลของที่นี่อยู่เสมอ รวมถึงสิ่งที่เหมาะสมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย