บิคตอร์ บัลเดส ได้ให้สัมภาษณ์กับ สจ๊วร์ต การ์ดเนอร์ ของ MUTV หลังจากที่เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนี่ก็คือทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ครั้งแรกของเขาในฐานะนักเตะปีศาจแดง...
รู้สึกอย่างไรที่ได้มาเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด?
ผมรู้สึกปลื้มใจมากที่เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของผม และสิ่งแรกเลยก็คือผมต้องกล่าวคำขอบคุณไปยัง หลุยส์ ฟาน กัล ที่ทำให้ผมกลับมาร่วมงานกับเขาอีกครั้ง ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมเลย เพราะอาการบาดเจ็บที่ว่ามันรุนแรงเอามากๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและทุกคนที่นี่ช่วยผมเอาไว้ พวกเขาดูแลผมเป็นอย่างดี ดังนั้นผมจึงรู้สึกซาบซึ้งมากที่ผู้จัดการทีมให้โอกาสผมได้เป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ความประทับใจแรกของคุณที่มีต่อสโมสรและกลุ่มนักเตะเป็นอย่างไรบ้าง?
วันแรกที่ผมมาถึงเอออน เทรนนิ่ง คอมเพล็กซ์ ผมเห็นตัวอักษรใหญ่สีแดงเขียนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับผมนี่มันเหมือนความฝันเลย ผมเล่นให้กับบาร์ซ่ามาโดยตลอด และนั่นก็เป็นอีกสโมสรที่ใหญ่ ผมรักสโมสรแห่งนั้นมาตลอดทั้งชีวิต ผมคิดว่านี่ก็คงไม่ต่างกัน มันเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก มีแฟนๆ มากมาย สำหรับแฟนๆ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมรู้สึกถึงพวกเขาได้ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ มันเหมือนกับเป็นครอบครัวใหญ่ เป็นความรู้สึกเดียวกับที่บาร์ซ่าเลย สำหรับผมมันเป็นเรื่องดีและน่าปลื้มใจมากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คุณได้พูดถึงอาการบาดเจ็บของคุณด้วย ตอนนี้คุณฟิตเต็มที่แล้วหรือยัง?
ผมหวังว่านะ ผมพอใจกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายของผมมาก และผมก็ดีใจที่ได้ลงสนามในฐานะนักเตะอีกครั้ง นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมและครอบครัว มันเยี่ยมมากสำหรับผม
มีนักเตะที่พูดภาษาสเปนหลายคนในสโมสร นั่นจะช่วยคุณได้ไหม?
แน่นอน ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นฟูสภาพร่างกายของผมเลย การที่ได้มีเพื่อนๆ จากทีมชาติและพูดภาษาสเปน แต่สำหรับคนอื่นๆ ก็ด้วย... เวย์น (รูนี่ย์) ซึ่งเป็นกัปตัน เขาน่าทึ่งมากสำหรับผมตั้งแต่วันแรกที่ผมได้เข้ามาฝึกซ้อม ผมคงร้องขออะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ผมรู้สึกซาบซึ้งกับสโมสรมากเลย
หลุยส์ ฟาน กัล ให้โอกาสคุณประเดิมสนามกับบาร์เซโลน่า เขามีความสำคัญกับคุณมากขนาดไหนในช่วงแรกๆ ของอาชีพค้าแข้งของคุณ?
ผมพูดเสมอว่าผู้จัดการทีมอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล เป็นโค้ชคนสำคัญ เมื่อคุณยังเป็นนักเตะเยาวชน คุณย่อมต้องการโอกาสแรกที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่า... และผู้จัดการทีมคนนั้นก็ให้โอกาสผมตอนอายุ 20 ปี นี่ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากในอาชีพค้าแข้งของผมเลย ตอนนี้เราได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และเขาได้ให้โอกาสอีกครั้งในชีวิตผม สำหรับผมแล้วมันน่าปลื้มใจมากที่จะได้เล่นให้กับเขา
คุณยังจะได้ร่วมงานกับ ดาบิด เด เคอา ด้วย คุณมองว่าเขามีพัฒนาการอย่างไรบ้างที่ยูไนเต็ด?
ผมคิดว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว ฟอร์มของเขาในทุกๆ วันและทุกๆ เกมมันแสดงให้ทุกคนเห็นว่าระดับของเขานั้นสูงแค่ไหน เขาผ่านช่วงปีที่ดีมามากมาย และนั่นมันก็เยี่ยมไปเลย
คุณต้องการที่จะแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งกับเขาไหม?
ผมมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือทุกคนอย่างที่เป็นมาตลอดในอาชีพของผม ผมต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ช่วยเหลือโค้ช รวมถึงทุกๆ คน ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีม และผมก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งของทีมเท่านั้น หากว่าผมได้ลงเล่น ผมก็จะตั้งใจทำผลงานให้ดีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ช่วยทีมให้ได้รับชัยชนะในแมตช์นั้น
คุณคว้าแชมป์มามากมายในอาชีพค้าแข้งของคุณ ตอนนี้คุณยังมีความมุ่งมั่นอะไรอยู่อีกบ้าง?
แชมป์รายการเดิมนั่นแหละ! เมื่อคุณคว้าแชมป์รายการต่างๆ ในวงการฟุตบอลแล้ว มันจะเหมือนคุณเสพติดมัน คุณต้องการที่จะเอาชนะมันให้ได้อีก สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นร่วมกับแฟนๆ ของคุณ ครอบครัวของคุณ และเพื่อนร่วมทีมของคุณ มันเยี่ยมมาก และความมุ่งมั่นของผมก็คือเอาชนะให้ได้ทุกๆ เกม คว้าแชมป์ให้ได้ทุกๆ รายการ
คุณเคยลงเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แค่ครั้งเดียวเท่านั้นกับบาร์เซโลน่า ตอนนี้คุณกำลังตั้งใจจะลงไปเล่นอีกในสีเสื้อยูไนเต็ดอยู่หรือเปล่า?
แน่นอน มันเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับผม นอกจากคัมป์ นู แล้ว ผมคิดว่านี่คือสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อคุณลองฟังเสียงบรรยากาศของเกม หรือบางทีอาจเป็นในฐานะนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด คุณจะรู้สึกมีความสุขมาก เพราะโรงละครแห่งความฝันแห่งนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อนักฟุตบอลทุกคน รวมถึงประวัติศาสตร์ฟุตบอลด้วย ตอนนี้ผมเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว และมันจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์สำหรับผมแน่นอน
คุณอาศัยอยู่ที่บาร์เซโลน่ามาเป็นเวลานาน คุณมีวิธีปรับตัวอย่างไรกับการใช้ชีวิตในอังกฤษและเมืองแมนเชสเตอร์?
มันหนาวแล้วก็ฝนตกอยู่ตลอดเลย (หัวเราะ) สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันมากก็คือความมืด เมื่อคุณอยู่ที่สเปนตอนสัก 1 ทุ่ม คุณจะยังอยู่ท่ามกลางแสงแดดกับเพื่อนๆ อยู่เลย แต่ไม่ใช่ตอนนี้แล้วล่ะ มันเป็นไปไม่ได้เลย... แค่บ่าย 3 โมงมันก็เริ่มมืดแล้ว! (หัวเราะ) มันก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ 2 เดือนครึ่ง และผมก็เริ่มคุ้นเคยกับมันแล้ว มันไม่ได้หนาวเกินอีกต่อไป ผมเริ่มชินกับสายฝน และตอนนี้ก็ถือว่าผมเป็นประชากรของเมืองแมนเชสเตอร์ไปแล้ว