หลุยส์ ฟาน กัล ก้าวเข้ามายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสถิติอันโดดเด่น เริ่มต้นด้วยสโมสรบ้านเกิด ก่อนที่จะสานต่อความสำเร็จต่อไปกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในเวทีโลก
ในฐานะผู้จัดการทีม เขาคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 3 ประเทศที่แตกต่างกัน เขาพาทีมอาแจ็กซ์ที่เต็มไปด้วยนักเตะเยาวชนคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ ด้วย และด้วยวัย 62 ปี เขาจะนำทัพอัศวินสีส้มลงทำศึกฟุตบอลโลกที่บราซิล ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เขาได้รับบทบาทผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์
เขาเกิดที่อัมสเตอร์ดัมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1951 ในชื่อ อลอยเซียส พอลัส มาเรีย ฟาน กัล เขาเข้าร่วมทีมอาแจ็กซ์เมื่ออายุได้ 20 ปี และแม้ว่าจะไม่เคยลงเล่นให้กับสโมสรในทีมชุดใหญ่ แต่เขาก็ได้ซึมซับวัฒนธรรมการเล่นในแบบฉบับโททัล ฟุตบอล มาอย่างเต็มที่
เขาได้ลงเล่นในระดับอาชีพหลังย้ายไปร่วมทีมรอยัล อันท์เวิร์ป ในเบลเยียม แต่อีก 4 ปีต่อมาเขาก็ย้ายกลับมาฮอลแลนด์เพื่อต่อสู้แย่งตำแหน่งในทีมเทลสตาร์ จากนั้นเขาก็ย้ายไปเล่นกับสปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม เป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับทีมอาแซ่ด
ฟาน กัล ยังอยู่กับอาแซ่ดต่อในฐานะโค้ช และเริ่มทำงานเกี่ยวกับการจัดการทีม โดยเขามักจะเน้นไปที่การมอบโอกาสให้กับนักเตะเยาวชน และเรื่องของแท็คติคที่ใส่ใจในรายละเอียดสูง ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาไปได้ไกลในเวลาต่อมา
หลังย้ายออกจากอาแซ่ด ฟาน กัล ก็ยังเรียนรู้ในด้านนี้ต่อด้วยการทำงานร่วมกับโค้ชระดับตำนานอย่าง เลโอ บีนฮักเกอร์ ที่อาแจ็กซ์ ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในปี 1991 ตอนนั้นสโมสรได้ผ่านช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ในยุค 1970 มานานพอสมควรแล้ว แต่ภายใต้การคุมทีมของ ฟาน กัล นั้น อาแจ็กซ์ก็สามารถคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ได้ 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงยูฟ่า คัพ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ถือเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกของสโมสรในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว
นักเตะในทีมชุดนั้นมี เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, พี่น้อง เดอ บัวร์, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเร้นซ์ เซดอร์ฟ, มาร์ก โอเวอร์มาร์ส และ แพทริค ไคลเวิร์ต โดยคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะเอซี มิลาน ได้ที่กรุงเวียนนา หลังจากพาทีมพุ่งเข้าสู่ความสำเร็จมากมาย ทำให้ ฟาน กัล เป็นที่หมายปองของสโมสรใหญ่ทั่วทวีปยุโรป สุดท้ายเขาก็ไปสานงานต่อจาก บ็อบบี้ ร็อบสัน ที่บาร์เซโลน่าในปี 1997 หลังจากที่เซ็ตอัพทีมสต๊าฟฟ์โค้ชซึ่งมี โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ภายในฤดูกาลแรกที่มาคุมทีม พร้อมกับป้องกันแชมป์อีกด้วยในปีถัดมา
ช่วงที่อยู่กับบาร์ซ่านั้น ฟาน กัล ได้เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 ครั้งในแชมเปี้ยนส์ ลีก เขาส่งเด็กหนุ่มวัย 18 ปีนาม ชาบี เอร์นานเดซ ลงประเดิมสนามในเวทียุโรปในเกมที่เสมอ 3-3 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่วนผู้ที่ทำประตูแรกในค่ำคืนนั้นก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมปีศาจแดงของเขานั่นเอง
ฟาน กัล ได้ย้ายไปคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ก่อนที่จะกลับมากุมบังเหียนทีมยักษ์ใหญ่จากกาตาลันอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ไปรับงานช่วงสั้นๆ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของอาแจ็กซ์ ก่อนที่จะกลับไปคุมทีมอาแซ่ดอีกรอบ และพาทีมคว้าแชมป์ลีกดัตช์ในปี 2009
ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้บาเยิร์น มิวนิค ดึงตัวเขาไปคุมทีม และ ฟาน กัล ก็กลายเป็นกุนซือชาวดัตช์คนแรกที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกา โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ภายในปีแรกที่ย้ายมาคุมเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่แฟนๆ ปีศาจแดงอยากจะเห็นเขาทำให้ได้อีกครั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งที่ 2 ของ ฟาน กัล ในปี 2010 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่ออินเตอร์ มิลาน ที่คุมทีมโดยอดีตมือขวาของเขาอย่างมูรินโญ่ และหลังจากย้ายออกจากบาเยิร์น เขาก็กลับมารับงานกับทีมชาติฮอลแลนด์อีกครั้ง ซึ่งเขาก็พาทีมเข้าไปเตะฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายได้ และหลังจากหมดภาระหน้าที่ในช่วงซัมเมอร์ที่บราซิล เขาก็จะเดินทางมายังเมืองแมนเชสเตอร์เพื่อสร้างตำนานบทใหม่ต่อไปในอาชีพผู้จัดการทีมของเขา
อาชีพอันน่าทึ่งของ หลุยส์ ฟาน กัล
ค้าแข้ง รอยัล อันท์เวิร์ป, เทลสตาร์, สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม, อาแซ่ด อัลค์มาร์
คุมทีม 1991-97 อาแจ็กซ์; 1997-2000 บาร์เซโลน่า; 2000-02 ทีมชาติฮอลแลนด์; 2002-03 บาร์เซโลน่า; 2005-09 อาแซ่ด อัลค์มาร์; 2009-10 บาเยิร์น มิวนิค; 201214 ทีมชาติฮอลแลนด์
เกียรติประวัติ อาแจ็กซ์: ยูฟ่า คัพ 1991/92, ดัตช์ คัพ 1992/93, เอเรดิวิซี่ 1993/94, 1994/95, 1995/96, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1994/95, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1995, อินเตอร์คอนทิเนนทัล คัพ 1995; บาร์เซโลน่า: ลา ลีกา 1997/98, 1998/99, โกปา เดล เรย์ 1997/98, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1997; อาแซ่ด: เอเรดิวิซี่ 2008/09; บาเยิร์น มิวนิค: บุนเดสลีกา 2009/10, เดเอฟเบ โพคาล 2009/10
|