แม้ว่าจะมีแมตช์ให้ลงเล่นอย่างจำกัดสำหรับ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ในฤดูกาลนี้ แต่ผู้รักษาประตูชาวเดนมาร์กของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังตั้งใจที่จะสร้างความประทับใจให้ได้เมื่อใดก็ตามที่ได้รับโอกาส
เขาสามารถทำคลีนชีทได้ในเกมแรก และเกมเดียวของฤดูกาลจนถึงตอนนี้ โดยช่วยให้ทีมปีศาจแดงเอาชนะนอริช ซิตี้ ไป 4-0 ในศึกแคปิตอล วัน คัพ เกมนี้นายทวารวัย 29 ปีได้ช่วยเหลือให้ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ได้รับการปฐมพยาบาล หลังจากที่ศูนย์หน้าของทีมนกขมิ้นล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
นี่คือบทสัมภาษณ์สุดพิเศษของเขากับ ManUtd.com ที่ได้พูดเกี่ยวกับการอดทนรอคอยโอกาส และกระบวนการทางความคิดต่างๆ...
คุณพอใจแค่ไหนกับฟอร์มของคุณในเกมที่เจอกับนอริช ซิตี้?
ถือว่าดีเลย อย่างที่คุณบอก มันเป็นเกมแรกในฤดูกาลของผม และผมก็มีความสุขทุกๆ วินาทีที่ได้ลงเล่น ผมพอใจกับฟอร์มการเล่น และผมก็คิดว่าทั้งทีมของเราต่างก็ทำได้ดีด้วย นี่เป็นการลงสนามในนัดอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผมภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่นี้ นั่นทำให้มันมีความสำคัญอยู่เหมือนกัน
มันยากไหมในการกลับมาลงเล่นหลังจากที่ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก?
ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว มันก็เหมือนกับนักเตะเอาท์ฟิลด์ที่ไม่ได้ลงเล่นนานๆ แล้วถูกส่งลงสนามนั่นแหละ มันไม่ง่ายเลยในการกลับมาจับจังหวะเกม ในฐานะผู้รักษาประตูแล้ว คุณจะยิ่งต้องผิดพลาดน้อยกว่าคนอื่นๆ คุณไม่สามารถทำเป็นหงุดหงิดเขวี้ยงบอลแล้วบอกว่า 'ก็ผมไม่ได้เล่นมาตั้ง 6 เดือนแล้วนี่นา' ได้หรอก มันทำแบบนั้นไม่ได้เลย แต่ผมก็มีความสุขกับเกมนั้นนะ เป็นเรื่องดีที่เราทำคลีนชีทได้
ตอนที่สน็อดกราสส์ร่วงลงไปกองที่พื้น คุณคิดอะไรอยู่?
ผมก็แค่ทำในสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปเขาทำกัน ผู้ตัดสินจะต้องหยุดเกม ผมขว้างบอลทิ้งไป วิ่งไปหาเขา แล้วก็ถามว่าเขาโอเคไหม เขามองมาที่ผม พูดพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็วูบไป มันค่อนข้างน่ากลัวเลย คุณเองก็คงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนักเตะที่เสียชีวิตเพราะลิ้นไปอุดหลอดลมอยู่เหมือนกัน นั่นแหละคือสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาเลยในตอนนั้น ผมจับเขาตะแคงข้าง แล้วก็พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นปฏิกิริยาโดยอัตโนมัติเลย
ตอนนี้เราผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในรายการดังกล่าวแล้ว นักเตะเริ่มมองเห็นโอกาสในการคว้าแชมป์บ้างหรือยัง?
ยังหรอกในตอนนี้ มันไม่ได้ส่งผลสำคัญอะไร หากว่าเราผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศโดยที่มีผลงานที่ดีมาในรอบก่อนหน้านั้น ถึงอย่างไรมันก็ยังต้องลงเล่นในเกมต่อไปอยู่ดี คุณไม่สามารถมองล่วงหน้าไปยังนัดชิงชนะเลิศได้เลย อันที่จริงเรายังไม่ได้มองไปถึงเกมที่จะเจอกับสโต๊ค ซิตี้ ด้วยซ้ำ ที่เราครุ่นคิดถึงอยู่ก็คือเกมถัดไปที่จะลงเล่นต่างหาก แล้วเมื่อไหร่ที่เกมนั้นมาถึง ตอนนั้นแหละเราถึงจะนั่งลง และคิดถึงมันแบบจริงๆ จังๆ
