
ชินจิ คากาวะ ได้มานั่งให้สัมภาษณ์แบบสุดพิเศษกับ United Review และนี่ก็คือสิ่งที่ดาวเตะชาวญี่ปุ่นได้บอกกับเรา...
ผู้จัดการทีมบอกว่าคุณต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะปรับตัวได้ในฤดูกาลนี้ คุณคิดว่ามันเป็นการประเมินค่าที่แฟร์หรือไม่?
ผมว่ามันก็แฟร์ดี หลังจากที่ผ่านศึกคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ มาในช่วงซัมเมอร์ ผมก็กลับมาซ้อมกับทีมช้ากว่าคนอื่น ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ นักเตะทุกคนเหมือนจะต้องเริ่มต้นเรียนรู้อะไรใหม่หมด และผมก็รู้สึกว่าผมตามหลังพวกเขาอยู่พอสมควร มันยากที่จะกลับมาฟิตเต็มที่ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล และผมก็ไม่พอใจกับมันเลย ผมได้ลงเล่นไม่มากนักในช่วงแรก แต่ผมก็ยังเชื่อว่าถ้าผมซ้อมหนักขึ้น ผมจะได้รับอะไรตอบแทน ตอนนี้สภาพความฟิตผมดีขึ้นเยอะ และผมจะพัฒนามันขึ้นไปอีก ผมไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่ผมก็รู้สึกดีแล้วในตอนนี้
คุณเพิ่งได้เหรียญแชมป์สมัยแรกในอังกฤษมาเมื่อฤดูกาลก่อน หลายคนเคยบอกว่าการได้แชมป์มาจะทำให้คุณยิ่งกระหายคว้ามันมาให้ได้อีก คุณรู้สึกอย่างไรกับตรงนี้บ้าง?
ผมได้แชมป์ลีกมา 2 ปีติดกับดอร์ทมุนด์ ก่อนที่จะมาได้แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษ ผมโชคดีที่ได้เล่นให้กับทีมที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการคว้าแชมป์ แต่คุณจะไม่มีทางเบื่อมันเลย ความรู้สึกมันสดใหม่ และแตกต่างออกไปเสมอ ผมต้องการคว้าแชมป์มากขึ้นในทุกๆ ปี และผมก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้มีส่วนร่วมกับทีมมากที่สุด
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ลงเล่นเป็นบางช่วงในฤดูกาลก่อนเพราะได้รับบาดเจ็บ คุณก็ยังได้ลงเล่นไปตั้งหลายเกม คุณพอใจหรือเปล่าที่ได้มีส่วนร่วมเท่านั้นในการคว้าแชมป์กับทีม?
การได้รับบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลที่แล้วมันน่าเสียใจ และน่าผิดหวัง หลังจากที่เพิ่งย้ายมา ผมก็อยากจะทำผลงานให้ได้ตามที่ทุกคนคาดหวัง แต่ผมก็ทำไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้ผมผิดหวังมาก แต่จากนั้นผมก็ได้โอกาสลงเล่น และเริ่มปรับตัวสร้างความคุ้นเคยกับทีมได้ มันทำให้ผมเล่นได้ดีขึ้น แม้ว่าโดยรวมผมจะไม่ได้พอใจกับตัวเอง 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม มาฤดูกาลนี้ผมก็อยากพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก และทำให้ฤดูกาลนี้ดีกว่าคราวก่อน แม้ว่าจนถึงตอนนี้ผมจะยังยิงประตูไม่ได้ แต่ผมก็เชื่อว่าถ้าเริ่มยิงได้เมื่อไหร่ ผมก็จะเริ่มมีความมั่นใจ และกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง
ช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว ทางสโมสรมีความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี สำหรับคุณแล้วมันส่งผลมากมายขนาดไหนที่ต้องร่วมงานกับโค้ชคนใหม่?
การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหมายความว่าการต่อสู้แย่งตำแหน่งตัวจริงนั้นต้องมาเริ่มต้นกันใหม่หมด ผมจะต้องเล่นในแนวทางที่ เดวิด มอยส์ ต้องการให้ผมเล่นให้ได้ ในทุกๆ วันผมต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพยายามเอาชนะในการแย่งตำแหน่งที่ว่านี้ ผมต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเองให้ผู้จัดการทีมเห็น เขาก็ไม่ได้มีความต้องการอะไรมากเป็นพิเศษ แต่ผมก็จะพยายามพัฒนาทักษาของผมต่อไป รวมถึงสภาพความฟิต ผมจะทำงานอย่างหนัก และทำอะไรให้กับทีมได้มากกว่าเดิม
เรารู้ดีว่าตำแหน่งที่คุณชอบคือการยืนหลังกองหน้า แต่คุณเองรู้สึกยังไงบ้างที่ต้องไปเล่นทางฝั่งซ้าย?
ผมยืนหลังกองหน้าตอนอยู่กับดอร์ทมุนด์ แต่พอเล่นกับทีมชาติญี่ปุ่น ผมก็มักจะยืนทางฝั่งซ้าย ผมยังเล่นตำแหน่งนี้มาด้วยตอนอยู่เซเรโซ่ โอซาก้า ผมมีประสบการณ์มาบ้างกับการเล่นตรงริมเส้น แต่ผมก็คือว่าผมก็มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะลงเล่นได้มากกว่าเพียงบทบาทเดียว ดังนั้นผมจึงจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อทีม ในทุกๆ วันผมจะเรียนรู้ว่าจะเอาชนะคู่แข่งทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้อย่างไร การเคลื่อนไหวแบบไหนถึงจะทำให้พวกเขาเจอกับปัญหา ผมก็ชอบนะที่สามารถลงเล่นได้มากกว่าตำแหน่งเดียว
คุณรู้สึกโอเคไหมกับการที่โปรแกรมเตะมีความหนาแน่น และมาแบบรวดเร็ว? นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับคุณเลย...
ถูกต้องที่สุด! ผมไม่ได้มีประสบการณ์ตรงนี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากนักเมื่อฤดูกาลที่แล้วเพราะอาการบาดเจ็บ ที่ผ่านมาในบุนเดสลีกามันจะมีช่วงเบรคหนีหนาวด้วย ที่จริงทุกวันนี้ผมก็ยังส่งอีเมล์คุยกับอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ดอร์ทมุนด์อยู่ พวกเขาบอกผมว่าปีนี้จะพักกันตั้งแต่ 21 ธันวาคม ไปจนถึง 25 มกราคม น่าเจ็บใจชะมัด! แต่ที่จริงแล้วผมก็ค่อนข้างตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน และก็ดีใจที่จะได้มีโอกาสสัมผัสกับช่วงเวลาที่เกมการแข่งขันมาแบบติดๆ กันแบบนี้