
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ใช่นักเตะอาร์เซนอลเพียงคนเดียวในปี 2012 ที่ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด... มิดฟิลด์ดาวรุ่งอย่าง แมทธิว วิลล็อค เองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน และเขาก็กำลังพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอยู่ในอคาเดมี่ของทีมปีศาจแดง
มิดฟิลด์วัย 18 ปีจากลอนดอนผู้นี้ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีของ วาร์เรน จอยซ์ และก็ก้าวจากทีมอคาเดมี่มามีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดชิงชนะเลิศแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์ คัพที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปเมื่อช่วงต้นฤดูกาล ก่อนจะได้ลงเล่นในเกมกระชับมิตรที่เอาชนะลัฟโบโร่ สติวเดนท์ส ไป 2-0 อีกด้วย
ในการให้สัมภาษณ์แบบสุดพิเศษกับ Inside United นิตยสารอย่างเป็นทางการของสโมสร วิลล็อคได้พูดถึงการย้ายออกมาจากอาร์เซนอลที่น้องชายทั้ง 2 คนของเขายังเล่นอยู่ และการพัฒนาตนเองที่เมืองแมนเชสเตอร์แห่งนี้...
คุณย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ดได้อย่างไร?
ผมเป็นเด็กฝึกหัดของอาร์เซนอลมาก่อน แต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมาตอนอายุ 15 ปี ผมจึงต้องไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรต่างๆ รวมถึงเร้ดดิ้งกับซันเดอร์แลนด์ สุดท้ายแล้วก็มาลงเอยกับยูไนเต็ด ตอนแรกผมก็ผิดหวังอยู่เหมือนกันที่ต้องย้ายออกมาจากอาร์เซนอล แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี
น้องชายของคุณก็เป็นนักฟุตบอลด้วยเช่นกันใช่ไหม?
ใช่แล้ว ผมมีน้องชาย 2 คน คริสยังอยู่ในทีมอาร์เซนอล อีกคนคือโจก็ยังอยู่ในทีมชุดอายุต่ำกว่า 16 ปีที่นั่นเช่นกัน
คุณเริ่มมีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น นั่นมีส่วนที่ทำให้คุณถูกโยกจากริมเส้นเข้ามาเล่นตรงกลางมากขึ้นหรือเปล่า?
ผมโตขึ้นมากในช่วงปีแรก (กับยูไนเต็ด) ตอนแรกๆ ผมก็ได้เป็นเป็นปีกอยู่ ผมยังไม่รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งพอที่จะเล่นตรงกลาง แต่พอในปีที่ 2 ผมก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงได้ลองมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางบ้าง มันต้องใช้พละกำลังพอสมควรเลยหากจะมาเล่นตำแหน่งนี้ และผมก็ไม่แน่ใจว่าในช่วงปีแรกผมพร้อมสำหรับการเล่นตรงนี้แล้วหรือยัง
คุณจำเป็นต้องอดทนพอสมควรกับปีแรกในทีมชุดยู-18 นั่นเป็นสิ่งที่คล้ายกันกับทีมชุดยู-21 หรือเปล่า?
ใช่แล้ว มันก็มีช่วงที่น่าเศร้าเหมือนกันนั่นแหละ แต่คุณก็จำเป็นจะต้องพยายามต่อไป ทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตนเองในทีม ผมเคยเล่นมาแล้วกับทีมชุดยู-16, ยู-17, ยู-18 และกับเกมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดี มันดีเสมอที่ได้เล่นร่วมทีมกับนักเตะอายุมากกว่า คุณจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเมื่อได้ดวลแข้งกับนักเตะระดับพรีเมียร์ ลีก คุณจะได้เห็นว่าคุณอยู่ระดับไหนแล้ว และคุณควรจะพัฒนาในด้านไหนบ้าง
คุณกำลังเตรียมตัวสำหรับโอกาสครั้งต่อไปในทีมชุดยู-21 อยู่ใช่ไหม?
ใช่เลย คุณจำเป็นจะต้องมีความหวังว่าจะได้รับโอกาส และเมื่อคุณได้มันมาก็ต้องคว้าไว้ ผมคิดว่าผมกำลังพัฒนาตัวเองอยู่ และก็หวังว่าจะได้ก้าวขึ้นไปอยู่ในทีมชุดนั้น การฝึกซ้อมในฤดูกาลนี้มันหนักขึ้น มันต้องวิ่งมากขึ้น รวมถึงการออกกำลังกายในโรงยิมด้วย นั่นหมายความว่าเมื่อเราต้องไปเล่นกับทีมอื่นๆ เราก็จะมีสภาพความฟิตที่พร้อมกว่าพวกเขา เพราะว่าเราฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักมาก แม้ว่าบางทีคุณอาจจะต้องนั่งเป็นตัวสำรอง แต่คุณก็จะต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดเป็นเรื่องของความอดทน เราทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีระหว่างกันนอกสนาม เราไปเดินเล่นกันที่แทรฟฟอร์ด เซ็นเตอร์ ไปหาอะไรกินร่วมกัน เรียกได้ว่าทุกๆ คนสนิทสนมกันดีเลยทีเดียว
คุณมีความฝันมากแค่ไหนที่จะได้เป็นนักเตะยูไนเต็ด?
มันคงเป็นเรื่องดีมาก เพราะในตอนที่ผมยังเด็กนั้นผมต้องการที่จะโตขึ้นมาแล้วได้เล่นให้กับสโมสรใหญ่ ผมไม่ได้จำกัดหรอกว่ามันจะเป็นทีมไหน ดังนั้นผมถึงมีความสุขมากที่ได้มาอยู่กับยูไนเต็ด หากว่าผมทำงานอย่างหนักต่อไปก็หวังว่าผมจะสามารถก้าวขึ้นไปในระดับนั้นได้