
เลียม กริมชอว์ อาจไม่ได้เป็นจอมถล่มประตู แต่เขาก็ทำได้ถึง 2 ลูกในเกมไนกี้ อคาเดมี่ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มิดฟิลด์สารพัดประโยชน์รายนี้เพิ่งได้พูดคุยกับ Inside United ไปเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับฤดูกาลล่าสุดของเขา...
คุณเพิ่งได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี แถมยังได้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมกับเอฟเวอร์ตันด้วย นั่นถือเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของคุณกับสโมสรเลยหรือเปล่า?
ผมดีใจกับมันมาก! รู้สึกดีที่ได้กลับมาลงเล่นอีกครั้ง มันคงเป็นเรื่องยากหากว่าคุณได้ลงเล่นเกมเดียวแล้วก็ต้องพลาดไปอีก 2 เกมอะไรแบบนั้น เราไม่ค่อยมีเกมยู-21 ให้ได้ลงเล่นกันมากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มลงเล่นสม่ำเสมอขึ้นแล้ว หากผมได้ลงเล่นเรื่อยๆ แบบนี้ก็จะยิ่งมีความมั่นใจ มันจะเป็นเรื่องดี และผมก็หวังว่าจะทำผลงานให้ดีต่อไป
บทบาทของคุณคือยืนป้องกันหน้าแนวรับ นั่นถือเป็นบทบาทถาวรของคุณเลยหรือเปล่า?
ก็หวังว่านะ แต่ผมก็ไม่รู้หรอก ผมสามารถเติมขึ้นหน้าได้เช่นกัน มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเล่นให้ได้หลายๆ ตำแหน่ง ในแผงมิดฟิลด์นั้นคุณจะต้องทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุด คุณจะต้องจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรแบบนี้ มันมีนักเตะคนอื่นๆ ที่ฟิตและพร้อมวิ่งไปทั่วสนาม แต่คุณเองก็ต้องไปกับบอลให้ได้บ้างด้วยเช่นกัน
สตีเว่น พีนาร์ และ เลออน ออสมัน ของเอฟเวอร์ตันถือว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่คุณเคยลงเผชิญหน้าด้วยเลยหรือเปล่า?
ใช่แล้ว อาจจะเป็นอย่างนั้น ที่จริงเราก็มีเกมอุ่นเครื่องกับพวกชุดใหญ่กันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่กับ 2 คนนั้นแล้วถือว่ามีความเป็นมืออาชีพสูงมาก พวกเขาทำงานอย่างหนัก มีความต้องการที่จะเอาชนะ และมันก็ถือเป็นบททดสอบชั้นดีสำหรับเราเลย
มันสำคัญแค่ไหนในการลงเตะกับนักเตะระดับนี้สำหรับคุณ?
มันสำคัญมาก หากคุณต้องการจะก้าวขึ้นไปในระดับสูงสุด นี่คือสิ่งที่คุณจะต้องเผชิญหน้าด้วยให้ได้ และมันก็ดีที่เราได้ลงเล่นกับนักเตะแบบนี้
ในแผงมิดฟิลด์ คุณรู้สึกว่าเริ่มมีอิทธิพลต่อเกมมากขึ้นหรือเปล่า?
แน่นอน บางครั้งเวลาที่ผมไปเล่นในแนวรับมันก็จะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมมากนัก แม้ว่าคุณจะยังมีงานให้ทำอยู่ดีนั่นแหละ อย่างไรก็ตาม ในบทบาทของมิดฟิลด์แล้ว คุณจะเป็นศูนย์กลางของเกม คุณจะต้องมีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอด มันเป็นงานที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลาเลยล่ะถ้าคุณถูกส่งลงไปยืนในพื้นที่ตรงกลางสนาม
การแข่งขันเริ่มเข้มข้นมากขึ้นแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนตั้งใจจะทำผลงานกันให้ดีมากขึ้นกันด้วยหรือเปล่า?
ก็ใช่ เรากำลังฟิตสมบูรณ์กันด้วย เพราะเราฝึกซ้อมกันอย่างหนักทุกสัปดาห์ การฝึกซ้อมของเราเข้มข้นมาก เราออกกำลังกายในยิมกันด้วย เพราะมันจะส่งผลดีสำหรับเรา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณเองแล้ว เพราะว่าทุกคนต่างก็ต้องการจะพัฒนาตัวเองด้วยกันทั้งนั้น
วาร์เรน จอยซ์ บอกว่าคุณชอบฝึกวิ่งสปรินท์ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมของคุณหรือเปล่า?
เราทำอะไรกันแบบนี้อยู่เสมอ วิ่งสปรินท์กันเล็กๆ น้อยๆ เราสังเกตการฝึกซ้อมจากนักกระโดดไกลอย่าง เกร็ก รัทเธอร์ฟอร์ด แล้วก็พยายามนำอะไรบางอย่างมาปรับใช้ ทุกอย่างเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาไปหมดแล้ว เราต้องการให้แน่ใจว่าในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมเราจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าทีมอื่นๆ ที่เริ่มเหนื่อยล้า เราต้องทำผลงานอย่างเต็มที่ไปจนจบเกม และนั่นก็คือส่วนสำคัญในเกมการเล่นของเรา เพราะว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้ในช่วงท้ายเกม
หากคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ยู-21 ได้จะมีความหมายกับคุณแค่ไหน?
ผมได้มีส่วนร่วมกับทีมน้อยมากตอนที่เราได้แชมป์ลีกครั้งล่าสุด ผมเพิ่งอายุ 18 ปี และเป็นเด็กฝึกหัดปีที่ 2 อยู่เลย ผมถูกเปลี่ยนตัวลงสนามอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยได้สัมผัสเกมจริงๆ จังๆ เท่าไหร่ ผมอยากที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้ลงเตะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง เพราะนั่นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก คุณจะตั้งใจทุ่มเทเต็มที่เมื่อได้ลงเล่นที่นั่น
คุณมาจากพื้นฐานครอบครัวที่เป็นนักฟุตบอล ทางบ้านของคุณภูมิใจแค่ไหนกับพัฒนาการของคุณจนถึงตอนนี้?
ปู่ของผมเคยเล่นให้กับแอคคริงตัน สแตนลี่ย์ และพ่อของผมก็เคยเล่นให้แบล็คเบิร์นชุดสำรอง แต่เขาก็ไม่ได้ก้าวขึ้นไปถึงระดับสูงสุด ทั้งครอบครัวของผมต่างก็เล่นฟุตบอลกันทั้งนั้น พวกเขามีความสุขที่เห็นผมทำผลงานได้ดี ทุกคนให้การสนับสนุนผมตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นผมจึงต้องขอขอบคุณพวกเขามากๆ เลย
สุดท้ายนี้ คุณมีความตั้งใจมากแค่ไหนที่จะผลักดันตัวเองกับที่นี่?
มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม เพราะว่าผมกำลังอยู่กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น เดี๋ยวเราคงได้เห็นกันว่าผมจะไปไกลแค่ไหน