ก่อนที่จะถึงทัวร์ 2015 ที่นำเสนอโดยเอออน เราจะมาย้อนอดีตถึงเรื่องราวสุดสำคัญ และลืมไม่ลงจากประวัติศาสตร์ของทีมปีศาจแดง เราเชื่อว่าเรื่องราวจากหน้าประวัติศาสตร์อันแสนเกรียงไกรนี้เป็นเรื่องที่สุดยอดไม่แพ้ใคร ในตอนที่ 12 ของซีรี่ส์นี้ เราขออุทิศให้กับสุดยอดผู้จัดการทีมฟุตบอลตลอดกาล เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ...
ฤดูกาล 2012/13 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกจารึกเอาไว้ว่าเป็นการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นการรูดม่านปิดฉากยุคสมัยของการคุมทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดประวัติศาสตร์ลูกหนังสหราชอาณาจักร
วันที่ 8 พฤษภาคม 2013 ไม่นานหลังจากที่คว้าแชมป์รายการที่ 28 จากการคุมทีม 26 ฤดูกาลในแมนเชสเตอร์แบบเต็มๆ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยืนยันว่าเขาจะวางมือจากการคุมทีม เขากล่าวในวันแถลงข่าวว่า "มันถึงเวลาแล้ว" ในที่สุดวันที่แฟนๆ ยูไนเต็ดทุกคนกลัวก็มาถึงจนได้ แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเศร้าโศกเสียใจ
4 วันหลังจากการประกาศข่าว โอลด์ แทรฟฟอร์ดก็กลายเป็นเวทีสำหรับเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ มันเป็นเกมระหว่างทีมปีศาจแดงกับสวอนซี ซิตี้ ซึ่ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นคนซัดประตูชัยได้ในช่วงท้ายเกม มันเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายในบ้านสำหรับเจ้านาย ซึ่งหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวก็เท่ากับเป็นสัญญาณปิดฉากยุคสมัยของเขาต่อหน้าแฟนๆ
"ต้องขอบคุณแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้บริหาร ไม่ใช่แค่ทีมแพทย์ ทีมโค้ช นักเตะ แฟนบอล... มันคือพวกคุณทุกคน พวกคุณคือประสบการณ์ที่แสนมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของผม" เฟอร์กูสันกล่าวต่อหน้าฝูงชน "ผมเป็นคนที่โชคดีมาก หากคุณลองคิดถึงการทำประตูท้ายเกมเหล่านั้น การคัมแบ็ค หรือแม้แต่ความพ่ายแพ้ ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ของเรานี้ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อของพวกเราทุกคน ดังนั้นผมจึงต้องขอบคุณจริงๆ"
เสียงเชียร์ "Fergusons red and white army" และ "Every single one of us loves Alex Ferguson" ดังกระหึ่มไปทั่วโรงละครแห่งความฝัน มันเป็นการสดุดีที่เต็มไปด้วยอารมณ์จากเหล่าแฟนบอลที่มีต่อชายผู้เข้ามาเปลี่ยนสโมสร ก่อนหน้านี้มันดูเหมือนว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาใครมาทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อเหมือนกับ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ แต่เฟอร์กูสันก็พาสโมสรที่กำลังลำบากกลับมาเข้าที่เข้าทาง และไม่ใช่แค่พาทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งเท่านั้น แต่ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าเดิมเสียด้วย
ด้วยความสามารถในการจัดการ วางแท็คติค และมีจิตใจแห่งผู้ชนะอยู่เต็มเปี่ยม เขาก็ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ถ้วยแชมป์มากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย สำหรับใครก็ตามที่ได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของเขา คนนั้นย่อมรู้ดีว่าเขาสุดยอดขนาดไหน
"เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่คุณคาดหวังจากคนที่เป็นเจ้านาย" อดีตกัปตัน แกรี่ เนวิลล์ กล่าว "เขาทำให้นักเตะทุกๆ คนทำตามแนวคิดของเขา นั่นทำให้มันเหมือนกับมีตัวเขา 11 เวอร์ชั่นลงไปเล่นในสนามอยู่ทุกๆ เกม เขาจะเป็นแรงบันดาลใจของคุณ"
แรงบันดาลใจนั้นยังส่งผลไปยังสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดด้วย นับตั้งแต่ปี 2011 ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่เขาเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม รูปปั้นบรอนซ์ของเขาก็ถูกตั้งเอาไว้อย่างโดดเด่นเป็นสง่าที่อัฒจันทร์ฝั่งทิศเหนือ ซึ่งในภายหลังอัฒจันทร์ฝั่งดังกล่าวก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สแตนด์
ไม่ว่าเราจะใช้ถ้อยคำที่สวยหรูเพียงใด มันก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยกับผลงานที่เฟอร์กูสันได้สร้างเอาไว้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่จะคงอยู่ในใจแฟนบอลทุกคนตลอดไป แฟนบอลที่ถือว่าโชคดีเพียงพอที่ได้มีโอกาสซึมซับความยอดเยี่ยมของเขา สุดยอดผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรคนนี้