ก่อนที่จะถึงทัวร์ 2015 ที่นำเสนอโดยเอออน เราจะมาย้อนอดีตถึงเรื่องราวสุดสำคัญ และลืมไม่ลงจากประวัติศาสตร์ของทีมปีศาจแดง เราเชื่อว่าเรื่องราวจากหน้าประวัติศาสตร์อันแสนเกรียงไกรนี้เป็นเรื่องที่สุดยอดไม่แพ้ใคร ในตอนที่ 15 ของซีรี่ส์นี้ เราจะเน้นไปที่อาชีพค้าแข้งอันสุดยอดของนักเตะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจ้าของสถิติลงเล่นมากที่สุด และความแชมป์มากที่สุด นั่นก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ ...
นักเตะ โค้ช ผู้จัดการทีม คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตำนาน คำเหล่านี้มีแค่ ไรอัน กิ๊กส์ คนเดียวเท่านั้นที่ได้รับมันจากช่วงเวลาที่ผ่านมากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี เขาถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน เดนิส เออร์วิน ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดบ้านเจอกับเอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนมีนาคม 1991 น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเด็กหนุ่มผู้เกิดที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ผู้นี้จะส่งอิทธิพลต่อทีมได้มากแค่ไหนในอนาคต กิ๊กส์ได้ค้าแข้งให้กับสโมสรต่อจากนั้นอีกนานถึง 23 ปี และในทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในทีมโค้ชของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กิ๊กส์เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงโดยเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดของวงการลูกหนังอังกฤษ เขาเป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ถูกทีมร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ฉกตัวไปก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะได้ไปเจรจากับเขาเป็นการส่วนตัว ก่อนที่จะได้ตัวดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดในประเทศรายนี้มาอยู่ในทีม ถือเป็นอีกครั้งที่ยอดกุนซือชาวสก็อตได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้น
ความเร็ว ทักษะ และการทรงตัวคือนิยามถึงสไตล์การเล่นของกิ๊กส์ การฉีกกระชากกองหลังของเขาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่เสมอ เขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมทางกราบซ้ายสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ทั้งสร้างสรรค์โอกาสและทำประตูเอง การถูกนำไปเปรียบเทียบกับตำนานอย่าง จอร์จ เบสต์ นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย แถมปีกชาวเวลส์กลับสร้างผลงานเหนือไปอีกขั้นด้วย
กิ๊กส์ยอมรับว่า "ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้เข้ามาสู่ทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะดีๆ และก็เป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จของสโมสร" แต่อันที่จริงด้วยพรสวรรค์และช่วงเวลาที่ยาวนานต่างหากที่ทำให้เขาได้มีอาชีพค้าแข้งอันน่าเหลือเชื่อ ทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดการอุทิศตน ทำงานอย่างหนัก และแรงจูงใจสูงสุดที่มีต่อเกมการเล่น รวมถึงกับสโมสร นั่นคือสิ่งที่เขาทำมาตลอดในสมัยเป็นนักเตะ
เขาได้สร้างสถิติของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมามากมาย โดยนอกจากลงสนามมากที่สุดแล้ว ยังคว้าแชมป์ได้ทุกรายการในระดับสโมสรอีกด้วย - แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, พรีเมียร์ ลีก 13 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, อินเตอร์คอนทิเนนทัล คัพ 1 สมัย, ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และแชริตี้/คอมมิวนิตี้ ชีลด์ อีก 9 ครั้ง ถือเป็นส่วนสำคัญในช่วงเวลาอันเกรียงไกรในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประตูลากโซโล่เดี่ยวที่ลืมไม่ลงในนัดเจอกับอาร์เซนอล ในเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดรีเพลย์ ปี 1999 ซึ่งนั่นเป็นบันไดพายูไนเต็ดไปสู่ความสำเร็จทริปเปิ้ลแชมป์
ทุกวันนี้ ในวัย 41 ปี เขายังอยู่ในทีมด้วยบทบาทที่แตกต่างกันออกไป โดยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับ หลุยส์ ฟาน กัล หลังจากที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวมาแล้วใน 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล 2013/14 หลังจากที่ เดวิด มอยส์ ลงจากตำแหน่ง ตอนนี้เขาตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จกับทีมในการทำหน้าที่ด้านข้างของสนาม เหมือนอย่างที่เคยทำได้มาแล้วในการสวมเสื้อแข่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
"ผมจะทำอย่างเต็มที่ เหมือนกับในสมัยที่เป็นนักเตะ" เขาเผย "มันแตกต่างออกไป คุณจำเป็นจะต้องคิดแบบโค้ช แทนที่จะคิดแบบนักเตะ ซึ่งในสมัยที่ผมยังเป็นนักเตะ ผมต้องการที่จะเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละสุดสัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ผมก็ต้องนำนักเตะฝึกซ้อมให้ได้ดีที่สุดด้วย ผมต้องการให้พวกเขาสนุกกับมัน แต่ผมก็ต้องการให้พวกเขาได้ประโยชน์จากมันด้วย นี่คือการเปลี่ยนบทบาที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นใครจะไปรู้ล่ะ? แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผมทำ ไม่ว่าจะในฐานะโค้ช, ผู้ช่วยผู้จัดการทีม หรือผู้จัดการทีม ผมก็ต้องการจะทำให้ดีที่สุด เหมือนอย่างที่ผมทำมาในสมัยเป็นนักเตะ"
ไม่ว่าจะด้วยบทบาทใดก็ตาม คงมีน้อยคนที่จะคิดว่าชายที่ชื่อ ไรอัน กิ๊กส์ จะไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้